กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ แนวโน้มตลาดไซด์เวย์ต่อ ฟันด์โฟลว์ยังไม่มีเสถียรภาพ

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ แนวโน้มตลาดไซด์เวย์ต่อ ฟันด์โฟลว์ยังไม่มีเสถียรภาพ

คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยกระแสเงินทุนไหลเข้าหุ้นยังคงไม่มีความชัดเจน ในสัปดาห์ที่แล้ว (5 – 9 กุมภาพันธ์) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวแย่กว่าที่เราคาดเอาไว้

โดยย่อตัวลงเพราะกระแสเงินทุนจากต่างชาติไม่นิ่ง และกลับทิศมาเป็นโหมดขายสุทธิอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าลง ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และผลการประชุม กนง. รอบล่าสุด ซึ่งแม้ว่ากนง. จะลงมติ 5:2 ให้คงดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.50% ตามคาด แต่การที่ กนง. ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอ่อนลงทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า กนง. จะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของไทยที่ชัดเจนขึ้นจะกดดันหุ้นกลุ่มธนาคาร ในขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ในสัปดาห์นี้ (12 – 16 กุมภาพันธ์) เราคาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยกระแสเงินทุนไหลเข้าหุ้นที่ยังแกว่งตัว และการที่ตลาดหุ้นจีนปิดยาวทั้งอาทิตย์น่าจะทำให้กิจกรรมในตลาดหุ้นไทยไม่คึกคักนัก เรามองว่านักลงทุนจะยังมุ่งความสนใจไปที่หุ้นสหรัฐ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวแบบ soft-landing และผลประกอบการของบริษัทสหรัฐใน 4Q66 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรายังคงจับตาผลประกอบการ 4Q66ของบริษัทจดทะเบียนไทยและ ประกาศจาก SET ในวันนี้เกี่ยวกับผลการศึกษาเรื่องการทำธุรกรรม short-selling และ program
trading

 

 

 

ติดตาม CPI และยอดค้าปลีกของสหรัฐ รวมถึงผลประกอบการ 4Q23 ของ บจ. ไทย และประกาศจาก SET เรื่อง short-selling และ program trading

ปัจจัยต่างประเทศ: ในสัปดาห์นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ i) CPI ของสหรัฐ (13 กุมภาพันธ์) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการแก้ไขตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐในเดือนธันวาคม 2566 เป็น 0.2% MoM (จากเดิม 0.3% MoM) ทั้งนี้ consensus คาดว่า CPI และ core CPI เดือนมกราคม จะเพิ่มขึ้น 3.0% YoY และ 3.8% YoY ตามลำดับ ii) ยอดค้าปลีกเดือนมกราคมซึ่งคาดว่าจะลดลง 0.1% MoM หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% MoM ในเดือนธันวาคม

ปัจจัยในประเทศ: เหตุการณ์สำคัญที่จะกระทบกับดัชนี SET ได้แก่ i) การที่บริษัทต่าง ๆ ส่งงบ 4Q66 อย่างคึกคักมากขึ้น ii) ประกาศจาก SET เรื่องผลการศึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกรรม short-selling และ program trading และ iii) การประชุมของคณะกรรมการ digital wallet

ยังเน้นหุ้นในธีมที่แข็งแกร่งในระยะสั้นอย่างเช่น กลุ่มท่องเที่ยว, หุ้นบางตัวในกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มที่ที่ผลประกอบการ 4Q66 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง

เนื่องจากสถานการณ์ในตลาดยังคงเหมือนกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นไปที่ i) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากกระแสข่าวบวกอย่างเช่น กลุ่มท่องเที่ยว และช่วงส่งท้าของมาตรการ e-Refund (AOT*, CPALL* และ CPAXT*) ii) กลุ่มที่จะได้อานิสงส์จาการการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจีน (AAV* และ ERW*) และ iii) หุ้นที่ผลประกอบการ 4Q66F มีแนวโน้มจะแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งในกลุ่มนี้เราเลือก CPAXT, PLANB*, SNNP* และ SUN