วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมหุ้นไทยไม่ไปไหน แต่มีโอกาสในหุ้นรายตัวและกลุ่ม

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมหุ้นไทยไม่ไปไหน แต่มีโอกาสในหุ้นรายตัวและกลุ่ม

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะยังเป็นปัจจัยทำให้ตลาดในช่วง 1 เดือนข้างหน้าผันผวน ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ปรับลดลง เหลือ 4.07% จาก 4.14% หนุนการฟื้นตัวของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง

อย่างไรก็ตาม การที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ตอบรับต่อการลดดอกเบี้ยมากเกินไป (ลดลง 1.25% ซึ่งสะท้อนถึงการลดดอกเบี้ยราว 5 ครั้ง) ขณะที่การลดดอกเบี้ยจริงอาจไม่เร็ว และไม่น่าเยอะเกิน 3 ครั้ง (ที่เป็นความเห็นของเฟดผ่าน Dot plot) จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรมีโอกาสแกว่งขึ้น กดดันให้เกิดแรงทำกำไรหลังการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค.นี้ ได้

กลุ่มท่องเที่ยวกลับมาน่าสนใจไม่ใช่แค่เพียงข่าวฟรีวีซ่า กลุ่มท่องเที่ยว (Tourism) ปรับขึ้น +7.36% โดดเด่นที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งเรามองว่าสาเหตุหลักไม่ใช่เพียงตอบรับประเด็นฟรีวีซ่าไทย-จีนที่ตลาดเก็งมาระยะหนึ่ง แต่มาจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดย 1) นักท่องเที่ยวต่างชาติ 1-21 ม.ค. 67 อยู่ที่ 2,015,942 คน +47% YoY การเติบโตที่สูงมากจะช่วงเร่งกำไรของหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว 2) นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาสูงสุด คือ นักท่องเที่ยวจีน 306,805 คน ซึ่งสูงมาก เมื่อเทียบกับ ม.ค.66 ที่ 91,841 คน และค่าเฉลี่ย 9 เดือนหลังของปี 66 ที่ ประมาณ 3 แสนคน และสูงสุด 4.1 แสนคนในเดือน ก.ค.66 3) นักท่องเที่ยวหลักที่เป็นชาวจีน มีผลดีต่อการใช้จ่าย การเข้าพัก รวมไปถึงการเดินทางผ่านอากาศยานที่สูงกว่าปีก่อนที่เป็นนักท่องเที่ยวมาเลเซีย
 

ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม 1) การประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ITD ชุดตกค้างจากองค์ประชุมไม่ครบ 2) ผลการเสนอขายหุ้นกู้ของ TRUE ถึง 30 ม.ค. 3) การพิจารณาคดีของพรรคก้าวไกล หากไม่มีโทษร้ายแรงที่นำไปสู่การยุบพรรค จะลดความเสี่ยงปัจจัยการเมือง และทำให้การแข่งขันกลับมาอยู่ในระบบรัฐสภา 

ภาพรวมกลยุทธ์ SET กลับมายืนเหนือ 1,370 จุด ทำให้ภาพรวมมีกรอบการแกว่งที่ 1,366-1,400 จุด การเก็งกำไรจึงยังเป็นเพียงการซื้อโดยกำหนดจุดตัดขาดทุน เน้นกลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีหรือฟื้นตัวชัดเจน อาทิ ท่องเที่ยว ขณะที่อาจเลือกกลุ่มที่ปรับลดลงมาเยอะนับจากต้นปี (อาทิ EA, COM7, IVL, SCGP, KCE, CRC, CBG, TLI, HMPRO, PTTGC)

หุ้นแนะนำ: AAV*, EA*, SAMART*, SPA*

แนวรับ: 1,354-1,366 / แนวต้าน : 1,380-1,389 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ไม่ถอยดิจิทัลวอลเล็ต จุลพันธ์ เผยเดินหน้า แม้ไม่ทันเดือนพ.ค. ชี้รัฐฯ มีอำนาจตีความวิกฤติ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาของโครงการใหม่(การเงินธนาคาร)

ส.อ.ท.เผยตัวเลขรถยนต์ ธ.ค. – ตัวเลขยานยนต์อยู่ที่ 133,621 คัน (-16% YoY, -18% MoM) ส่งออกรถยนต์ 90,305 คัน (-19%YoY, -9%MoM) ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 68,326 คัน       (-17%YoY, +11%MoM) ตั้งเป้า 1.9 ล้านคัน หรับปี 2024

รัฐบาล เตรียมออกพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศ ในรอบ 20 ปี และมี.ค.2567 มีแผนจะจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ งบ 67 (พีพีทีวี)

ยอดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ 59 วัน แก้หนี้แล้ว 1.35 แสนราย มูลหนี้ 9.18 พันลบ. ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 8,702 ราย มูลหนี้ลดลงกว่า 636 ลบ.(การเงินธนาคาร)

China Evergrande ถูกศาลฮ่องกงสั่งเลิก ซึ่งบริษัทยักษ์อสังหาฯจีนนี้มีหนี้มากที่สุดในโลก รวมกว่า3แสนล้านดอลลาร์ การซื้อขายในEvergrandeและบริษัทในเครือที่จดทะเบียนถูกระงับ หลังคำตัดสิน

จีนสั่งห้าม ขายชอร์ต หุ้นบางกลุ่ม มีผล 29 ม.ค.67 หลังตลาดหุ้นจีนดิ่งหนัก (การเงินธนาคาร)

นักลงทุนเทน้ำหนัก 98% ต่อคาดการณ์ที่ว่า Fedจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมสัปดาห์นี้

โตโยต้ายอมรับ บริษัทลูกปลอมข้อมูลกำลังเครื่องยนต์ดีเซล ระงับส่งมอบรถ 10รุ่น 

SIRI แสนสิริเผย บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย หลังละ180 ลบ.วันเดียวขายหมดทั้งโครงการ

ASW ส่งบริษัทลูก TITLE เตรียมเปิดโครงการภูเก็ตล็อคไฮซีซั่น รับกำลังซื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติ

SABUY ขายหุ้นดับเบิ้ลเซเว่นให้ COM7 มูลค่า 1.36 พันลบ. แลกหุ้นคืน 3.85%

 

ประเด็นติดตาม: 30 ม.ค. – EU GDP Growth Rate Flash (Q4)/EU Consumer Confident Final(Jan) /US JOLTs Job Openings& Quits/ 31 ม.ค. - TH Industrail Production(Dec) / Retai lSales(Nov)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)