วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ แกว่งตัวตามผลประกอบการและตัวเลขเศรษฐกิจ

ขณะที่การบริโภคเอกชน (Private consumption) ออกมาที่ +2.8% QoQ (ดีกว่าคาดการณ์ที่ +2.5% QoQ ขณะที่ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ +3.1% QoQ) ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังแข็งแรงโดยเฉพาะด้านการบริโภค ช่วยเพิ่มมุมมองที่ตลาดคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสจะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป (Soft landing) มากกว่าที่จะเป็นการถดถอย (recession) ซึ่งเป็นบวกกับบรรยากาศลงทุนโดยรวม

ติดตามตัวเลขส่งออก ธ.ค.คาดบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 วันนี้ 10.00 น. กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออก ธ.ค. โดยตลาดคาดส่งออก +6.40% (จาก พ.ย. +4.90%) ขณะที่นำเข้า +7.40% (จาก พ.ย. +10.10%) และคาดดุลการค้าติดลบ เรามองการส่งออกที่ดีขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้เศรษฐกิจปี 2567 เติบโตอย่างมีสมดุล อย่างไรก็ตามด้วยส่วนต่างดอกเบี้ยที่สูง และดุลการค้าที่ยังอ่อนแอ ทิศทางค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้า // ทั้งนี้ติดตามแนวโน้มการฟื้นตัวของอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI, ITC, TU, ASIAN) และการชะลอตัวของเครื่องปรุงอาหาร (XO)
 

ปัจจัยติดตาม 1) การรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ของ TRUE โดยออกหุ้นกู้ชุดใหม่ เสนอขาย 26-30 ม.ค. นี้ 2) การเผยแพร่รายงานเศรษฐกิจรายไตรมาสฉบับใหม่ของ IMF 30 ม.ค. 3) การพิจารณาคดีของพรรคก้าวไกล 31 ม.ค. 4) การเปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยว 4 สัปดาห์แรกของ ม.ค.67 ซึ่งหากสัปดาห์ล่าสุดยังเพิ่มในระดับ 7-8 แสนราย จะเป็นปัจจัยบวกหนุนกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะสายการบิน หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเริ่มมีสัญญาณบวกมากขึ้นจากปีก่อน

หุ้นที่ปรับลดลงมากมีโอกาสเป็นเป้าหมายของการซื้อคืน (short recovery) โดยหุ้นใน SET50 ที่ปรับลดลงเยอะ (4 ม.ค.-23 ม.ค.) ได้แก่ EA (-20.54%), COM7 (-19.22%), IVL (17.14%), SCGP (-15.65%), KCE (-14.22%), CRC (-13.29%), CBG (-12.50%), TLI (-12.44%), HMPRO (-12.40%), PTTGC (-12.26%)   

ภาพรวมกลยุทธ์ SET ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่แต่เกิดสัญญาณฟื้นตัวที่มีลุ้นเป็นการกลับตัวระยะสั้น (ดีดตัวในแนวโน้มลง) หากย่อไม่หลุด 1,369 แนวโน้มจะมีโอกาสคงภาพการฟื้นตัว การเก็งกำไรเน้นหุ้นเสี่ยงซื้อที่แนวรับ หรือในหุ้นที่มั่นใจการฟื้นตัวของผลประกอบการ และอาจเลือกกลุ่มที่ปรับลดลงมาเยอะนับจากต้นปี (YTD)

หุ้นแนะนำ: AAV*, SCB*, EA*, BDMS

แนวรับ: 1,354-1,369 / แนวต้าน : 1,389-1,400 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

เศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง GDPประมาณการครั้งที่1 ของQ4/66 ขยายตัว 3.3% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.0% 

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าคาด25,000ราย 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย

ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 นักลงทุนให้น้ำหนัก 62% ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ดี โรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ สมาชิก ECB ส่งสัญญาณว่า อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ (อินโฟเควสท์)

หวัง อี้ เยือนไทยศุกร์นี้ ลงนามวีซ่าไทย – จีน อย่างเป็นทางการ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน มีกำหนดเยือนไทยในฐานะของแขกกระทรวงการต่างประเทศ (กรุงเทพธุรกิจ)

รถมือสองอ่วม ซัพพลายล้น ราคาร่วง 30% กระบะยอดปฏิเสธกู้พุ่ง 50% KCAR เปิดเผยว่า ราคารถมือสองตก 20-30% อีวีดิ่งหนักสุด ด้านรีเจคชั่นเรทพุ่ง 40% รถกระบะอ่วมสุดเจคชั่นเรท 50% 

นายกฯ ยัน “แลนด์บริดจ์” ต้องเริ่มวันนี้ หากช้ายิ่งทำไทยเสียโอกาส (อินโฟเควสท์)

เทสลาดิ่งต่อ12% หลังเผยงบ Q4/66 รายได้-กำไรธุรกิจรถยนต์อ่อนแอ คาดปี67 เติบโตลดลง

PTT คงกระพัน อินทรแจ้ง นั่งซีอีโอ PTT คนที่ 11 เริ่มตั้งแต่ 13 พ.ค.67 เป็นต้นไป

OTO ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ระยะสั้นของบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (W)

EURO เตรียมเปิดจองซื้อหุ้น IPO เคาะราคาหุ้นละ10.60 บาท  31 ม.ค. – 2 ก.พ.นี้

 

ประเด็นติดตาม: 26 ม.ค.  - US PCE(Dec) / Personal Income(Dec)/ 30 ม.ค. – EU GDP Growth Rate Flash (Q4)/EU Consumer Confident Final(Jan) /US JOLTs Job Openings/US JOLTs Job Quits

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)