วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ IRPC ประมาณการ 4Q66F: จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดในปีที่แล้ว

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ IRPC ประมาณการ 4Q66F: จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดในปีที่แล้ว

เราคาดว่า IRPC จะขาดทุนสุทธิ 3.4 พันล้านบาทใน 4Q66F (ดีขึ้นจากที่ขาดทุนสุทธิ 7.1 พันล้านบาทใน 4Q65 แต่แย่ลงจากที่มีกำไรสุทธิ 2.4 พันล้านบาทใน 3Q66)

โดยผลประกอบการที่ดีขึ้น YoY และแย่ลงQ oQ จะเป็นเพราะเราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 2.4 พันล้านบาทใน 4Q66F ดีขึ้นจากที่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสูงถึง 5.7 พันล้านบาทใน 4Q65 แต่แย่ลงจากที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 3.9 พันล้านบาทใน 3Q66 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงจาก US$93/bbl ในเดือนกันยายน เหลือ US$77/bbl ในเดือนธันวาคม 2566 เรายังคาดว่า maket GRM ของ IRPC จะลดลง 41% QoQ เหลือ US$5.0/bbl เนื่องจาก i) spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลลดลงมาอยู่ที่ US$12.6/bbl, US$23.6/bbl และ US$21.1/bbl ตามลำดับ และ ii) crude premium ของน้ำมัน Arab Light เพิ่มขึ้นเป็น US$3.9/bbl แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2%QoQ เป็น 190KBD นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีจะลดลง QoQ เนื่องจาก spread ของ PP และ ABS ยังคงลดลงอีก 4% QoQ เหลือ US$309/ton และ 7% QoQ เหลือ US$564/ton ตามลำดับ เพราะถูกกดดันจากอุปทาน PP ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตลาดมากถึง 7.6MTA ในปี 2566F และ 7.2MTA ในปี 2567F รวมถึงกำลังการผลิต ABS ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตลาด 2.3MTA ในปีที่แล้ว และ 0.9MTA ในปีนี้

 

ปรับลดประมาณการปี 2566F เป็นขาดทุนสุทธิ

เราปรับลดประมาณการปี 2566F เป็นขาดทุนสุทธิ 2.9 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 954 ล้านบาท เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสูงขึ้น, market GRM ลดลง และ spread ปิโตรเคมีลดลง เราคาดว่า IRPC จะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในปีที่แล้ว 1.2 พันล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 594 ล้านบาท หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงมาอย่างหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 นอกจากนี้ เรายังปรับลดประมาณการ market GRM ของ IRPC ลง 4% เหลือ US$6.4/bbl ในปี 2566F เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลในปีที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ US$16.7/bbl, US$22.5/bbl และ US$21.9/bbl ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่า
สมมติฐานเดิมของเราเล็กน้อย นอกจากเนี้ เรายังปรับประมาณการ spread ของ PP และ ABS ในปี 2566F ลงจากเดิม 3% เหลือ US$358/ton และ US$633/ton ตามลำดับ

Valuation & action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567F ลงเหลือ 2.20 บาท จากเดิม 2.40 บาท (ดูบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ KGI ฉบับวันที่ 12 ธันวาคม 2566) อิงจาก EV/EBITDA ที่ 7.5x เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการในปี 2566F เรายังคงมองลบกับแนวโน้มของธุรกิจ PP และ ABS เนื่องจากจะมีอุปทานใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เราเชื่อว่าผลประกอบการที่อ่อนแอใน 4Q66F จะกดดันราคาหุ้น

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมี