วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BTS - รถไฟฟ้าสายใหม่ทำให้ปวดหัว

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BTS - รถไฟฟ้าสายใหม่ทำให้ปวดหัว

เรามองบวกน้อยลงกับ BTS เพราะราคาหุ้นในปัจจุบันเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราที่ 8.50 บาท อีกไม่มากแล้ว และอาจจะมีการปรับลดประมาณการกำไรลงอีก กรณีที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าใหม่สองสาย (ชมพูและเหลือง) จะส่งผลกระทบกับประมาณการกำไรปี FY24 1.7%

ในขณะที่ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของ VGI ทำให้มีผลขาดทุน 119 ล้านบาทในงวด 1HFY24 จากที่เราคาดไว้ว่าจะมีกำไรเต็มปี 1.85 พันล้านบาท ดังนั้น เราจึงจะทบทวนประมาณการกำไรใหม่

เกิดกรณีที่เป็นปัญหาจากการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง

เรามีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารของ BTS เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) ทั้งสายสีชมพูและเหลือง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ (i) ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เกิดเหตุรางหล่นลงมาที่พื้นในช่วงสถานีสามัคคี ทำให้เกิดความเสียหายกับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านล่างเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2023 โดยในขณะนี้ มี 4 สถานี (จากศูนย์ราชการนนทบุรี ถึงสามัคคี) ที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการซ่อมแซมประมาณหนึ่งเดือน ดังนั้น จึงคาดว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะกลับมาเปิดเดินรถเต็มสาย (30 สถานี) ได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2024 แต่แม้จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่รถไฟฟ้าสายสีชมพูยังกลับมาเปิดให้บริการส่วนที่เหลืออีก 26 สถานี และจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในวันที่ 7 มกราคม 2024 อย่างไรก็ตาม จะมีการให้ส่วนลดค่าโดยสาร 15% จากอัตราที่กำหนดไว้ที่ 13-38 บาท และจะกลับมาเก็บค่าโดยสารในอัตราปกติเมื่อกลับมาเปิดให้บริการครบทุกสถานีในเดือนกุมภาพันธ์ (ii) ส่วนในกรณีของสายสีเหลือง เกิดเหตุล้อรถขบวนหนึ่งหล่นลงมาที่พื้นเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2024 ทำให้มีการตรวจสอบรถไฟฟ้าทุกขบวนเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 2 - 7 มกราคม 2024 โดยจะกลับมาเดินรถตามปกติในวันที่ 8 มกราคม 2024 ซึ่งในช่วงที่ทำการตรวจสอบจะทำให้ระยะเวลาในการรอรถนานขึ้นจาก 10 นาทีเป็น 30 นาที ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจงดเก็บค่าโดยสารในช่วงที่ทำการตรวจสอบขบวนรถ

 

 

 

ประมาณการกำไรปี FY24 ยังมี downside อีก

เมื่ออิงตามสมมติฐานของเรา รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (เริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 3 กรกฎาคม 2023) จะส่งผลขาดทุนมาที่ BTS 500 ล้านบาทในปี FY24 อิงจากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยรายวันที่ 50,000 เที่ยว โดยการเปิดให้บริการฟรีเป็นเวลาห้าวันในช่วงทดสอบ (2-7 มกราคม) จะทำให้มีผลขาดทุนเพิ่มอีก 8.2 ล้านบาท คิดเป็น 0.4% ของประมาณการกำไรปี 2024F ส่วนในกรณีของรถไฟฟ้าสายสีชมพู เราคาดว่าจะมีผลขาดทุน 125 ล้านบาทในปี FY24 (สามเดือน) อิงจากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยรายวันที่ 53,000 เที่ยว และมีการคิดค่าโดยสารในอัตราปกติ แต่เมื่อมีการให้ส่วนลดค่าโดยสาร 15% จะทำให้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก 23.8 ล้านบาท ใน 4QFY24 (คิดเป็น 1.3% ของประมาณการกำไรปี 2024F ถึงแม้ว่ากรณีที่เกิดกับรถไฟฟ้าทั้งสองสายจะทำให้กำไรมี downside เพียงเล็กน้อยแต่เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 119 ล้านบาทใน 1HFY24 ในขณะที่เราคาดว่ากำไรเต็มปีจะอยู่ที่ 1.85 พันล้านบาท เราจึงจะทบทวนประมาณการกำไรของเราใหม่อีก
ครั้งตอนออกบทวิเคราะห์ประมาณการกำไร 4QF24

แนะนำซื้อ โดยประเมินราคเป้าหมายที่ 8.50 บาท

ถึงแม้ว่าเราจะแนะนำซื้อ แต่เรามองบวกน้อยลงกับ BTS เพราะเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกไม่มาก และอาจจะมีการปรับลดประมาณการกำไรลงอีก

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BTS - รถไฟฟ้าสายใหม่ทำให้ปวดหัว

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BTS - รถไฟฟ้าสายใหม่ทำให้ปวดหัว