วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.เคจีไอฯ Quantamental ตลาดหุ้นไทยหยุดลงแล้ว (อาจจะชั่วคราว)

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.เคจีไอฯ Quantamental ตลาดหุ้นไทยหยุดลงแล้ว (อาจจะชั่วคราว)

SET Index ฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดได้ หยุดภาวะ “Bear” เปลี่ยนเป็นสถานะ “Recovery”

รายงานเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เราประเมิน Downside ของตลาดหุ้นไทยจำกัดแล้ว จึงแนะนำให้นักลงทุนเข้าทยอยสะสมหุ้นไทย แม้ว่าในเดือน ธ.ค. ประมาณการ EPS ของ SET index จะยังถูกปรับลดลงต่อเนื่องอีก -1% MoM แต่เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองไปยังแนวโน้มปี 2567 ที่จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้ว ส่งผลให้ดัชนี SET index ปรับขึ้นได้ 2.6% MoM และถือเป็นการหยุดภาวะแนวโน้มขาลงได้เป็นการชั่วคราว

Value factor: ต้นทุนการเงินเริ่มผ่อนคลายลง แต่ Upside ของตลาดหุ้นไทยยังจำกัด

i) Modified yield gap (M-yield gap): เราปรับไปใช้ข้อมูลประมาณการกำไรปี 2567 แทนที่ข้อมูลปี 2566 สำหรับการใช้พิจารณาลงทุนในปี 2567 หลังจากที่เข้าสู่เดือน ม.ค.67 แล้ว ส่งผลให้ M-yield gap ปรับขึ้นสู่ระดับ +2.23 จุด สูงกว่า +2.0 จุด ส่งสัญญาณ “Bullish” ต่อตลาดหุ้นไทย ระยะสั้น ทั้งนี้ประมาณการ EPS ปี 2567 ของ SET index ล่าสุดเท่ากับ 96.75 บาท (+11.7% YoY) นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ยังปรับลดต่อเนื่อง

ii) Implied equity risk premium (iERP): iERP หรือ ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยล่าสุดเท่ากับ 3.93% ลดลงเล็กน้อย ต่ำกว่าระดับ 4% หลักๆเป็นผลจากระดับดัชนี SET index ที่ปรับขึ้นมาและการปรับลดประมาณการฯปันผลต่อหุ้น (DPS) ในปี 2567 - 68 อย่างไรก็ดีหากพิจารณาเปรียบเทียบ iERP และ Risk Free rate (Bond yield อายุ 10 ปี) พบว่าส่วนต่างดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.1% เดือนก่อน และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีจที่ 1.0%

iii) Cyclical adjusted PE (CAPE): อัตราส่วน CAPE ล่าสุดเท่ากับ 17 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 16.6 เท่า ในเดือนก่อน ขณะที่ส่วนต่างระหว่าง 1/CAPE (Earnings yield ระยะยาว) กับ Bond yield อายุ 10 ปี หรือที่เรียกว่า Excess CAPE yield: ECY เท่ากับ 3.3% เพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 เป็นต้นมา

 

 

เงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยเทียบกับอุปทานเงินทั้งระบบของไทยคิดเป็น 28.3%

Aggregate investor allocation to equity index (AIAE index) เพิ่มขึ้น 28.8 จุด สะท้อนว่านักลงทุนได้ทำการจัดสรรเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยราว 28.8% ของอุปทานเงินทั้งระบบ ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยของ AIAE ในอดีตระยะยาวอยู่ที่ 27.6 จุด

Let profit run / ถ้าหุ้นขึ้นแรงชนแนวต้าน แนะนำให้ขายทำกำไร

เดือนก่อน เราแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นไทย เนื่องจากเราประเมิน Downside ของตลาดหุ้นไทยจำกัด และแนวโน้มปัจจัยพื้นฐานปี 2567 ถูกคาดหวังไว้ว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน Valuation model ของเรา โดยเฉพาะ M-yield gap เริ่มส่งสัญญาณว่า Valuation ของตลาดหุ้นไทยผ่อนคลายลงมาก นอกจากนี้ Momentum ของตลาดหุ้นไทยเริ่มพลิกกลับจากภาวะ “Bear” เป็นภาวะ “Recovery” หรืออยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากที่ Fast momentum (อัตราผลตอบแทนย้อยหลัง 1 เดือน) เริ่มพลิกเป็นบวก

อย่างไรก็ดี เรายังไม่ได้คาดหวังว่าตลาดหุ้นไทยจะพลิกกลับเป็นภาวะ “Bull” ในระยะถัดไป เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังของตลาดหุ้นไทยยังไม่จูงใจมากนัก (จากข้อมูลปัจจุบัน) อิง iERP และ CAPE โมเดล นอกจากนี้ประมาณการกำไรโดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แล้วในช่วงต้นปีมักที่จะสูงเกินไป (Overconfident) โดยจากข้อมูลสถิติย้อนหลังแล้ว ความน่าจะเป็นกว่า 80% นักวิเคราะห์จะทำการปรับลดประมาณการลงระหว่างปี ดังนั้นเราจึงแนะนำนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นตามที่เราแนะนำก่อนหน้า ให้ถือหุ้น “Let profit run” และให้ “ขายทำกำไร” หากมีโอกาสที่ดัชนี SET index ปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,480 –1,510 จุด ทั้งนี้เราแระเมินแนวรับของดัชนี SET index ไว้ที่ 1,400 จุด และ 1,390 จุด ตามลำดับ

เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา หุ้นเด่นของเรา ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5.1% และ 3.6% อิง Equal weight และ Market cap weight ตามลำดับ หุ้นเด่นสำหรับเดือน ม.ค. 2567 อยู่ในตารางที่ 1

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.เคจีไอฯ Quantamental ตลาดหุ้นไทยหยุดลงแล้ว (อาจจะชั่วคราว)

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.เคจีไอฯ Quantamental ตลาดหุ้นไทยหยุดลงแล้ว (อาจจะชั่วคราว)