วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PCE ต่ำคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ย

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,405.09 จุด +0.25 จุด +0.02% มูลค่าการซื้อขาย 33,666 ลบ. Program Trading -1,385.53 ลบ. ต่างชาติ -2,078.34 ลบ. TFEX -16,771 สัญญา ตราสารหนี้ -1,017.76 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6%YoY ในเดือนพ.ย. จากระดับ 2.9%YoY ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8%
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ใน 4Q66 หลังจากมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ เศรษฐกิจชะลอตัวจาก 3Q66 สนับสนุน FED ยุติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.2% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.2567 จากก่อนหน้า นี้ 62.7% และคาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 จากเดิม 3 ครั้ง
+ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งจะหมดอายุ 31 ธ.ค. 2566 ลดค่าจดทะเบียนการโอนจาก 2% เหลือ 1% ของราคาประเมินหรือราคาขาย และลดค่าจดทะเบียนการจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% จากยอดเงินกู้ เพื่อเป็นการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 33 เซนต์ หรือ -0.45% ปิดที่ 73.56 ดอลลาร์/บาร์เรลก่อนตลาดหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้เนื่องในวันคริสต์มาส โดยสัญญาน้ำมันดิบถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า แองโกลาอาจเพิ่มการผลิตน้ำมันหลังจากถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปค
 

 

- องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 52% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่า 850,000 ราย
- วอลุ่มการซื้อขายมีแนวโน้มบางจากช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปหลังดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคล PCE ปรับตัวขึ้นเพียง 2.6% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. 67 ทั้งนี้คาดว่าในปี 67 จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 6 ครั้งรวม 1.50% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,400-1,415 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น 27% จากเดือน พ.ย. : BANPU LANNA AGE
• SET50 หุ้นเข้า KCE หุ้นออก TIDLOR SET100 หุ้น AEONTS, ICHI, ITC, M, MOSHI, RBF, SAPPE, SISB, TKN, TOA หุ้นออก ACE, CKP, MBK, PSL, PTG, SABUY, STEC, THANI, TIPH, TQM มีผล 2 ม.ค.67

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

PRM "ซื้อลงทุน" Bloomberg Consensus ราว 8.50 บาท
คาดแนวโน้มกำไร 4Q66 จะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน

•งวด 3Q66 มีกำไร 328 ลบ. -69%YoY -30%QoQ โดยมีรายได้ 1,836 ลบ. -15%YoY -12%QoQ หดตัวโดยมีสาเหตุหลักจากธุรกิจจัดเก็บน้ำมัน (FSU) ที่ -50%YoY -33%QoQ จากสถานการณ์น้ำมันที่เกิดภาวะ Backwardation หรือราคาล่วงหน้าต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ทำให้ผู้ค้าชะลอการกักเก็บน้ำมัน ประกอบกับเข้าสู่ Low Season ที่เป็นหน้าฝน ทั้งนี้ 9M66 มีกำไร 1,377 ลบ. -10%YoY

•คาดแนวโน้มกำไร 4Q66 จะเห็นการฟื้นตัว QoQ อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1) ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศเข้าสู่ช่วง High Season ของภาคการท่องเที่ยว และมีรับเรือลำใหม่เพิ่มในช่วงปลายปีนี้ 2) เรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ Alframax 1 ลำ และเรือ FSU 1 ลำ จะกลับมาให้บริการตามปกติ และ 3) จะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเรือ FSU 1 ลำ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 1,953 ลบ. –12%YoY (9M66 คิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปี)

•คาดแนวโน้มกำไรปี 67 จะโตไม่มาก โดยแม้จะมีแรงหนุนจากแผนการซื้อเรือเคมีภัณฑ์มือสองมาให้บริการเพิ่มเติม และกลุ่มเรือสนับสนุนงานสำรวจมีความต้องการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนนำเรือเข้าอู่ซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นสู่ 27 ลา จากปี 66 ที่ 17 ลำ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 ราว 1,989 ลบ. +2%YoY

•เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) วงเงินไม่เกิน 800 ลบ. และไม่เกิน 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 4% ไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด และเริ่มซื้อคืนวันที่ 27 ธ.ค.66 - 27 มิ.ย.67 ซึ่งสะท้อนว่ามูลค่าบริษัทเริ่มถูกกว่าที่ควรจะเป็น

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q66 ที่คาดจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน แต่มีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มปี 67 ซึ่งอยู่ในช่วงของการลงทุนทั้งการซ่อมบำรุงเรือและรับเรือเพิ่ม อย่างไรก็ตาม Catalyst ระยะสั้นจะมาจากการทำ Treasury Stock และผลประกอบการ 4Q66 ที่คาดจะออกมาดี ประกอบกับ ราคาหุ้นปรับลง 29%YTD ทำให้ Downside Risk จำกัด ประกอบกับราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus ราว 8.50 บาท Upside 65% อัตราปันผล 5-6% แนะนำ “ซื้อลงทุน”

หุ้นมีข่าว

(+) GPSC (Bloomberg consensus 57.75 บาท) ซื้อคืนหุ้น GRP จาก ปตท. ปักธงบรรลุเป้าหมายไฟฟ้าหมุนเวียน 15,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 ตลาดต่างประเทศโตสูง โดยเฉพาะอินเดีย ส่วนธุรกิจ แบตเตอรีขยายสอดคล้องดีมานด์ ล่าสุด NV Gotion อัพแผนขยายการผลิตไป 8 กิกะวัตต์ โอกาสสร้างการเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ERW (Bloomberg consensus 6.20 บาท) ท่องเที่ยวปลายปีหนุน ยอดจองห้องพักเต็ม 100% ดันอัตราการเข้าพัก แตะ 85% แย้มผลงานปีนี้ตามเป้า เร่งขยายโรงแรมตามแผน ตั้งเป้าจะมีโรงแรม HOP INN ทั้งในไทยและต่างประเทศ ราว 150 แห่ง ส่วนปีหน้าหวังรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวดึงต่างชาติเข้าไทยดันผลงานเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WPH (Bloomberg consensus - บาท) ต่างชาติเที่ยวไทยสนั่น-รพ.สมุยคึกคัก หนุน Q4/2566 พีคสุดรอบปีนี้ แถมยืนเป้าหมายปี 2566 ไว้ราว 1.5 พันล้านบาท รับพอร์ตผู้ใช้บริการโตเด่น แถมวางหมากปีนี้อัพพอร์ตต่างชาติทะลุ 20% เดินหน้าขยายเตียงใหม่ ปูทางรับดีมานด์โต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HL (Bloomberg consensus - บาท) ชี้ทิศทางธุรกิจปี 2567 ทะยานต่อ 20% หลังความต้องการยาเพิ่มขึ้น คาดยอดขาย SSSG กลับมาเป็นบวก พร้อมทุ่มงบ 120 ล้านบาท เดินหน้าเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 20 แห่ง จากปีนี้ที่ 50 แห่ง แย้มอยู่ระหว่างหาธุรกิจลงทุนใหม่ พร้อมขยายโปรดักต์ท่าเงิน (ที่มา ทันหุ้น)