วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดรอติดตามการประชุมเฟดและ Dot plot คืนนี้

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดรอติดตามการประชุมเฟดและ Dot plot คืนนี้

อาจต้องระวังปฏิกิริยาของตลาดเชิงลบหาก Dot plot ชี้ดอกเบี้ยปีหน้าลดลงไม่ถึง 1% เงินเฟ้อสหรัฐฯ พ.ย.ออกมาที่ +0.1% MoM, +3.1% YoY ใกล้เคียงคาดการณ์ที่ +0.0% MoM, +3.1% YoY นักลงทุนรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) คืนนี้

ตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ยนโยบาย แต่จุดสำคัญที่จะยากแก่การคาดเดาและมีส่วนสำคัญต่อการกำหนดโทนของการลงทุนจะอยู่ที่แถลงการณ์ของประธานเฟด ทั้งในส่วนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ขณะเดียวกันปัจจัยที่ตลาดรอติดตามคือมุมมองดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล (Dot plot) ฉบับใหม่ ว่าระดับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในปีหน้าจะยังคงอยู่ที่ 2 ครั้ง (หรือ 0.50%) หรือจะมีโอกาสผ่อนคลายมากกว่านั้น ซึ่งเมื่อมองจากตลาดล่วงหน้า ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยปี 2567 ในระดับ 1% หรือ 4 ครั้ง ดังนั้นหาด Dot plot ออกมาน้อยกว่านั้น อาจทำให้นักลงทุนประเมินเป็นลบได้ 

ปัจจัยส่วนใหญ่ในประเทศกระทบต่อความเสี่ยงมากกว่าจะเป็นปัจจัยหนุน 1) การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่รมว.แรงงานถอนเรื่องไปก่อนประชุมครม. คาดจะนำกลับมาเสนอใหม่ด้วยตัวเลขที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยกดดันเชิงต้นทุนต่อกลุ่มที่ใช้แรงงานเข้มข้น ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง, อาหาร (ตัดแต่งเนื้อสัตว์) และกลุ่มค้าปลีก 2) มาตรการแก้หนี้ทั้งระบบ แม้คาดส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ในระยะสั้น คาดจะทำให้ความกังวลต่อการควบคุมกรอบดอกเบี้ยในการปล่อยกู้ กลับมากดดันต่อกลุ่มไฟแนนซ์ ขณะที่กลุ่ม SME มีแต่มาตรการพักชำระหนี้ ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจกลับมาดีได้ หากไม่ได้มีการอัดฉีดเงินก้อนใหม่เข้ามา ดังนั้นเรามองตลาดจะไม่ตอบรับเชิวบวกมากนัก และอาจมองในเชิงลบต่อกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหกรรมการเงินมากกว่า
 

ภาพรวมกลยุทธ์ มุมมองตลาดระยะสั้นดูไม่แข็งแกร่ง โดยเรายังเห็นการปรับลดลงแรงในกลุ่มหุ้นที่ซื้อขายด้วย PER สูง และปันผลต่ำ อย่างไรก็ตามกลุ่มหุ้นที่กระแสเงินสดดีและปันผลสูง ค่อนข้างยืนได้ดีและแข็งแกรงกว่าภาพรวม ซึ่งเราเชื่อว่าภาพตลาดปี 2567 หุ้นในกลุ่ม defensive จะได้น้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้น และเคลื่อนไหวได้ดีกว่าภาพรวม SET

หุ้นแนะนำ: ADVANC*, SUSCO*, EPG*, ETL*

แนวรับ: 1,366 / แนวต้าน : 1,390 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ราคาน้ำมัน WTI ลงต่อเนื่อง ล่าสุดหลุด $69 ไม่มั่นใจมติโอเปคพลัส - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลุดระดับ 69 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซา (อินโฟเควสท์)

ครม.ไม่เคาะขึ้นค่าแรงใหม่ เศรษฐา เผย รมว.แรงงาน ดึงเรื่องกลับไปทบทวน - เศรษฐา ทวีสิน เผย รมว.แรงงาน ดึงกลับไปปรับปรุงสูตรค่าแรงใหม่ คาดอีก 2 สัปดาห์นำเข้าพิจารณาใหม่ ยัน ทันช่วงปีใหม่ ไม่ตอบคำถาม 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ (ประชาชาติ)

ลูกหนี้ 4 กลุ่ม นายกฯ ประกาศมาตรการช่วยเหลือ -  นายกฯ แถลงแก้หนี้ทั้งระบบ 10.3 ล้านราย ลูกหนี้ 4 กลุ่ม 10.3 ล้านราย ลดดอกเบี้ย-ปรับโครงสร้าง-ขยายเวลาผ่อนจ่าย มีแนวทางช่วยเหลือ (ประชาชาติ)

 


 

ครม.อนุมัติ “ฟรีวีซ่าญี่ปุ่น” มาไทย ยาว 3 ปี เริ่ม 1 ม.ค.2567 - ครม.ไฟเขียวฟรีวีซ่าให้กับนักธุรกิจญี่ปุ่น เดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 - 31 ธันวาคม 2569 (ฐานเศรษฐกิจ)

TESG - ในกลุ่มที่มี ESG rating AAA และ AA ที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อ ได้แก่ ADVABC, BCP, CPALL, CPAXT, CPF, CRC, PTT, SCGP, TISCO, BCPG, BDMS, CPN, EA, EGCO, MAJOR, RATCH, SCB เป็นต้น

TOA (Not rated) – อาจต้องระวังแรงขายลดความเสี่ยง หลังมีรายงานข่าวปปง.เร่งยึดทรัพย์ STARK และหากผู้บริหาร (คุณวนรัชต์) ถูกพิจารณาว่าทุจริต อาจนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด ซึ่งรวมถึงหุ้น TOA ที่มีการถือไว้

 

ประเด็นติดตาม: 13 ธ.ค. - US PPI, Fed Interest Rate Decision / 14 ธ.ค. - US Core Retail Sales, EU Deposit Facility Rate Decision, ECB Rate Decision

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)