วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก KLINIQ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ทำ New High

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก KLINIQ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ทำ New High

 รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q66 ที่ 71.0 ลบ. ทรงตัว QoQ แต่เติบโต59.3%YoY: บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 591 ลบ. +9.6%QoQ, +36.8%YoY จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม(SSSG) +16.4%YoY ตามจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น

และการเพิ่มบริการใหม่ๆ ประกอบกับมีการเปิดสาขาใหม่ แบรนด์ L.A.B.X จำนวน 4 สาขา บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น(%GPM) ที่ระดับ 53.8% ลดลงทั้ง YoY, QoQ จาก 55.3% ใน 3Q65 และ 54.9% ใน 2Q66 เนื่องจากการเติบโตของรายได้ THE KLINIQUE SURGERY CENTER และ L.A.B.X ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมี %GPM ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิงวด 3Q66 เท่ากับ 71.0 ลบ. ทรงตัว QoQ แต่เติบโต 59.3%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 12.0% เพิ่มขึ้น YoY, หดตัว QoQ จาก 10.2% ใน 3Q65 และ 13.0% ใน 2Q66 โดยกำไรงวด 9M66 เท่ากับ 211 ลบ. คิดเป็น 73% ของประมาณการกำไรปี 66

•    คาดการณ์กำไรงวด 4Q66 เท่ากับ 76 ลบ. +7.1%QoQ, +25.1%YoY: คาดบริษัทจะมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 636 ลบ. +7.6%QoQ, +29.4%YoY จากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น การกลับมาเปิดดำเนินการของแบรนด์ THE KLINIQUE สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์บางแค ที่ปิดปรับปรุงในงวดก่อนหน้า และการเปิดสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา แบ่งเป็นแบรนด์ THE KLINIQUE 1 สาขา แบรนด์ L.A.B.X 3 สาขา คาดอัตรากำไรขั้นต้น(%GPM) ที่ระดับ 53.7% ลดลง YoY, ทรงตัว QoQ จาก 56.0% ใน 4Q65 และ 53.8% ใน 3Q66 เนื่องจากการเติบโตของรายได้ THE KLINIQUE SURGERY CENTER และ L.A.B.X ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมี %GPM ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE โดยคาดว่าศูนย์ศัลยกรรม จะถึงจุดคุ้มทุน(Break-Even Point) ในงวด 4Q23 ส่งผลให้เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิงวด 4Q66 เท่ากับ76.0 ลบ. + 7QoQ, +25.1%YoY กำไรสุทธิทำ New High รายไตรมาส ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 11.9% 

 

 

•    ประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ที่ 287 ลบ. เติบโต 39.5%YoY: เราคาดการณ์รายได้จำนวน 2,276 ลบ. เติบโต 38.9%YoY จากคาดการณ์ว่าในปี 66 บริษัทเปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 14 สาขา รวมเป็น 54 สาขา จากสิ้นปี 65 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 40 สาขา โดยใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ราว 1,420 ลบ. ในการขยายกิจการ การลงทุนในซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เราใช้สมมติฐาน %GPM ที่ระดับ 54.2% ลดลงจากปี 65 ที่ระดับ 56.3% เนื่องจากการเติบโตของรายได้แบรนด์ L.A.B.X ที่มี Margin ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE ทำให้เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 287 ลบ.+39.5%YoY 

•    ประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ที่ 365 ลบ. เติบโต 27.4%YoY ทำระดับสูงสุดใหม่: เราคาดการณ์รายได้จำนวน 3,046 ลบ. เติบโต 33.8%YoY จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่มีจำนวน  54 สาขา และการเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่จำนวน 15 สาขา แบ่งเป็นแบรนด์ THE KLINIQUE 8 สาขา และ L.A.B.X 7 สาขา ประกอบกับการเติบโตของรายได้ศูนย์ศัลยกรรม ที่โดดเด่นในเรื่องการทำหน้าอก และการทำจมูก รวมถึงการให้บริการศัลยกรรมใหม่ๆเพิ่มเติม เช่น การยุบโหนก ตัดกราม (Bone Surgery) เราใช้สมมติฐาน %GPM ที่ระดับ 54.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 66 ที่คาดว่ามี %GPM 54.2% ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิ เท่ากับ 365 ลบ. +27.4%YoY ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยคาดว่าศูนย์ศัลยกรรมจะเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่งวด 1Q67 
 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก KLINIQ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ทำ New High

 

•    เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 46.50 บาท: ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท เนื่องจากธุรกิจของบริษัท อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต โดยในปี 2021-2030 เติบโตเฉลี่ย(CAGR) 10% ต่อปี (Source: GRAND VIEW RESEARCH) เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PEG Ratio ที่ 1 เท่า เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของผลประกอบการ โดยคาดว่ากำไรปี 67 จะเติบโต 27.4% YoY และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 เท่ากับ 1.66 บาทต่อหุ้น ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 46.50 บาท ราคาเหมาะสมมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 26.5% ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ในอนาคตราว 2.0% ต่อปี เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง :
1.    การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเสริมความงาม 
2.    การพึ่งพิงบุคลากรทางการแพทย์ 
3.    การพึ่งพิงธุรกิจในช่องทางห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก 
4.    การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค 
5.    ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก KLINIQ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ทำ New High