วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี HEALTHCARE SECTOR 4Q23 จะเป็นไตรมาสที่กำไรสูงเป็นอันดับสองของปี

วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี HEALTHCARE SECTOR  4Q23 จะเป็นไตรมาสที่กำไรสูงเป็นอันดับสองของปี

การดำเนินงานของโรงพยาบาลไทยกลับมาเป็นปกติแล้ว โดย 3Q เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากโรคระบาดตามฤดูกาลในช่วงฤดูฝน Q จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดอันดับสองของปี

เราประเมินกำไรหลัก 4Q23 จะลดลง 7% qoq น้อยกว่าที่ลดลง 13-21% ก่อนโควิดปี 2024 กำไรจะกลับมาเติบโตปกติที่ 10% yoy สนับสนุนจากการดูแลผู้ป่วยโรคซับซ้อนและจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น (ไม่ใช่การขึ้นราคา) นอกจากนี้ยังมีอัพไซด์จากโครงการใหม่ๆ ของ SSO เราเลือก (i) BCH เนื่องจากกำไรเติบโตดี และมีอัพไซด์ และไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และ (ii) BDMS เนื่องจาก valuation ถูก

กำไรสูงสุดใน 3Q23

สนับสนุนจาก (i) การแพร่ระบาดของโรคประจำฤดูฝน (ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก RSV มือเท้าปาก) (ii) ผู้ป่วยเดินทางจากตะวันออกกลางและ CLMV เพิ่มขึ้น (iii) รับรู้ค่าเหมาจ่ายรายหัวที่ปรับขึ้นจาก SSO เต็มไตรมาส (+10% เป็น 1,808 บาท/คน/ปี ตั้งแต่ 1 พ.ค.) ซึ่งผลักดันอัตราการครองเตียงมากกว่าระดับที่ทำให้กำไรสูงสุดที่ 70% และการประหยัดจากขนาดสูงขึ้น

4Q23 จะเป็นไตรมาสที่กำไรสูงเป็นอันดับสองของปี

เราคาดกำไรธุรกิจหลักรวม (BCH, BDMS, BH และ CHG) จะลดลงเพียง 7% qoq (6.2 พันลบ.) เทียบกับลดลง 13-21% ก่อนโควิด (2016-2019) เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ยังคงอยู่ในระดับสูง (168,502 QTD คิดเป็น 95% ของจำนวน
ผู้ป่วยใน 3Q) ไข้หวัดใหญ่เริ่มระบาดตั้งแต่ต้นปี และนานกว่าปกติ ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 404,896 ราย YTD ซึ่งทำให้อัตราการครองเตียงของโรงพยาบาลอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ยังคงมีอุปสงค์คงค้างจากผู้ป่วย
ชาวต่างชาติ (Fig. 5)

วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี HEALTHCARE SECTOR  4Q23 จะเป็นไตรมาสที่กำไรสูงเป็นอันดับสองของปี

 

เติบโตอัตราปกติในปี 2024

เราคาดกำไรธุรกิจหลักโดยรวมจะกลับมาเติบโตระดับปกติปีหน้า โดยเพิ่มขึ้น 10%yoy เป็น 26 พันลบ. รพ.จะมุ่งเน้นโรคซับซ้อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และการเพิ่มจำนวนผู้ป่วย รพ.อาจขึ้นราคา 5-6% เพื่อครอบคลุมต้นทุนบริการที่สูงขึ้น รพ.จะเพิ่ม
ศูนย์โรคเฉพาะทาง (มะเร็ง, หลอดเลือดหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, ไต, โรคเฉพาะทาง) SSO จะขยายโครงการ SSO 515 (ค่ารักษาเพิ่มขึ้น 25% ต่อเคส) ไปอีก 6 เดือน สิ้นสุดเดือนมิ.ย. 2024 แต่เราเชื่อว่าจะมีการขยายเวลาต่อไปอีก การรับรู้รายได้ค่าเหมาจ่ายรายหัวเต็มปี เราคาดจำนวนเตียงทั้งหมดจะเพิ่ม 140,078 เตียงภายในปี 2025

 

อัพไซด์จาก SSO

ได้แก่ (i) โควต้า SSO จะเพิ่มขึ้น 15% หากให้บริการนัดหมายออนไลน์และบริการ Telemed ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อโรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเต็มโควต้าแล้ว (ii) เพิ่มค่าทันตกรรมเป็น 1,200 บาท/ปี จากเดิม 900 บาท; (iii) วัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับสมาชิกที่มีอายุมากกว่า 40 ปี (จากปัจจุบัน >50 ปี) และ (v) แพ็คเกจพรีเมียมสำหรับSSO M40 (สมาชิก 11 ล้านคนทั่วประเทศ) อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงเป็นเรื่องการขาดแคลนบุคลากร (แพทย์ พยาบาล ช่างเทคนิค)

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี HEALTHCARE SECTOR  4Q23 จะเป็นไตรมาสที่กำไรสูงเป็นอันดับสองของปี