วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SAPPE แนวโน้มระยะสั้นเป็นบวกน้อยลง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SAPPE แนวโน้มระยะสั้นเป็นบวกน้อยลง

บริษัทมองบวกกับแนวโน้มการเติบโตของรายได้ปี 2567 น้อยกว่าเรา โดยคาด่วาจะโตเพียง 20-25% (เราคาดไว้ที่ 28%) SAPPE คาดว่ารายได้ในประเทศจะขยายตัวในอัตราพอ ๆ กับการส่งออกที่ประมาณ 20-25%

ซึ่งเรามองว่าค่อนข้างท้าทาย เพราะอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังยังไม่เคยเกิน 10% เลย บริษัทบอกว่าที่ผ่านมาไม่ได้เน้นตลาดในประเทศมากนักเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านกำลังการผลิต อย่างไรก็ตามกำลังการผลิตใหม่ที่มุ่งเน้นตลาดในประเทศจะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มรายได้ในประเทศได้

 

ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

บริษัทมองว่าราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนน้ำตาลเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ในปี 2567 โดยประเมินว่าราคาน้ำตาลในประเทศจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนน้ำตาลคิดเป็น 10% ของต้นทุนรวม ดังนั้น ราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นจึงน่าจะฉุดให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงประมาณ 1-1.5% หรือเทียบกับ 100 ล้านบาท ซึ่งที่ระดับนี้ บริษัทบอกว่ายังบริหารจัดการได้ผ่านการลดต้นทุน PET Resin, ลดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

 

 

กำไรจะลดลงใน 4Q66 – จากยอดขาย และ margin ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น

รายได้ของ SAPPE เพิ่มขึ้นจากยอดส่งออกไปยังอังกฤษ ในขณะที่ margin เพิ่มขึ้นจากการที่โรงงานผลิตสินค้าเดินเครื่องที่ระดับ optimal level, ต้นทุน PET Resin ลดลง, และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทใช้น้ำตาลต้นทุนต่ำหมดไปแล้วใน 3Q66 และน้ำตาลราคาใหม่ (สูงขึ้นประมาณ 20%) จะเริ่มส่งผลกระทบกับต้นทุนการผลิตใน 4Q66 ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำเกินไปเป็นเพราะมีการใช้งบการตลาดน้อยเกินไปในงวด 9M66 ดังนั้น เราจึงคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นใน 4Q66

 

แนวโน้มระยะสั้นเป็นบวกน้อยลง – ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567F เหลือ 96 บาท (จาก 112 บาท)

เราเป็นห่วงว่าต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจะส่งผลกระทบกับ margin ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ต่ำเกินไปในในงวด 9M66 จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมากใน 4Q66 – 2567 เพื่อกระตุ้นการส่งออกไปยังตลาดเอเชีย ซึ่งการเติบโตมีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ เนื่องจากเราคาดว่า margin จะลดลงใน 4Q66 ซึ่งเป็นช่วง low season เราจึงยังคงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิม แม้ว่ากำไรในงวด 9M66 จะคิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา เรา de-rate PE ลงเหลือ 22.5x (+1S.D.) จากเดิม 28x เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่เป็นบวกน้อยลง ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2567F ใหม่ที่ 96 บาท

 

Risks

ยอดส่งออกชะลอตัว ต้นทุนน้ำตาล เม็ดพลาสติกปรับราคาขึ้น ค่าใช้จ่ายการขายเพิ่ม