วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดยังแกว่งจากสถานการณ์ตะวันออกกลาง

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดยังแกว่งจากสถานการณ์ตะวันออกกลาง

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นเกิน 4.90% เป็นครั้งแรกนับจากปี 2550 โดยหลักมาจาก 2 ปัจจัย 1) สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ก.ย. เพิ่มขึ้น 965,000 หน่วย หรือ +1.8% สูงสุดนับจากพ.ค.65

ปัจจัยดังกล่าวกลับมาสนับสนุนมุมมองเฟดจะตรึงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานานขึ้น 2) สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีความรุนแรงมากขึ้น สร้างความกังวลต่อมุมมองเงินเฟ้อ // ทั้งนี้นักลงทุนมีแนวโน้มให้น้ำหนักกับการให้ความเห็นมุมมองดอกเบี้ยผ่านเหตุการณ์สำคัญในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ได้แก่ 1) การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดที่ Economic Club of New York วันนี้ 2) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) วันที่ 1 พ.ย.

คงมุมมองหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวในช่วง 2 เดือนสุดท้าย หลังความผันผวนช่วง ต.ค. แม้ภาพเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2567 จะมีความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลกที่การเติบโตเริ่มชะลอลง แต่ในระยะสั้น เรามีมุมมองบวกว่าหุ้นไทยและหุ้นโลกมีโอกาสฟื้นตัว จาก 1) ความคาดหวังงเงินฟ้ออยู่ในทิศทางที่ปรับลดลง (Disinflation) ช่วยลดผลตอบแทนพันธบัตร 2) ข่าวร้ายและการปรับประมาณการกำไรน่าจะจบวนช่วง ต.ค.-ต้น พ.ย. 3) ผลประกอบการเข้าสู่ช่วง high season ไตรมาส 4-1 โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET ที่ 1,403-1,647 จุด กลุ่มที่น่าสนใจเรามอง 1) โมเมนตัมกำไรดี อาทิ นิคมอุตสาหกรรม, การแพทย์, ท่องเที่ยว 2) ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ (รอซื้อเมื่ออ่อนตัว), อาหาร, ท่องเที่ยว, การแพทย์ 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดัชนี SET50/SET100 ใหม่ที่เป็น Free Float Adjusted คาดว่าบวกต่อการเพิ่มน้ำหนักโดยรวมต่อหุ้นกลุ่ม ธนาคารและการแพทย์
 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวในกรอบ 1,420-1,460 จุด หุ้นที่ลงเยอะจากการขายชอร์ต อาจเป็นเป้าหมายของการซื้อคืน ขณะที่ภาพการเก็งกำไรยังเน้นกลุ่มได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าทั้งทางตรง (อิเล็กทรอนิกส์และอาหาร) และทางอ้อม (การแพทย์และท่องเที่ยว)

หุ้นแนะนำ: BCP*, BDMS*, TLI*, GFC*

แนวรับ: 1,420 / แนวต้าน : 1,460 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

บอนด์ยีลด์10 ปีพุ่งเหนือ 4.9%/30 ปีทะลุ 5% เก็งเฟดขึ้นดอกเบี้ย -  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.9% ในวันนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งทะลุ 5% (อินโฟเควสท์)

ดอกเบี้ยกู้แตะ 8% สูงสุดรอบ 23 ปี- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543 ทั้งนี้ โดยพุ่งขึ้นอย่างมากจากระดับ 3% ในปี 2564 ปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง (อินโฟเควสท์) 
 

เศรษฐกิจจีน Q3/66 โตเกินคาดที่ 4.9% อานิสงส์การบริโภคในประเทศพุ่ง – ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของจีนโตอยู่ที่ 4.9% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 4.4-4.5% เหตุการบริโภคในประเทศขยายตัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน (กรุงเทพธุรกิจ)

พลังงาน เตรียมเสนอ ครม. ลดราคาน้ำมันเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 91 จำนวน 2.50 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน –กระทรวงอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลงประมาณ 2.50 บาทต่อลิตร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากที่ ครม. เมื่อ 16 ต.ค. 2566 ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานได้เห็นชอบเบื้องต้นถึงแนวทางการช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว (ศูนย์ข่าวพลังงาน)

 

ประเด็นติดตาม: 19ต.ค. – Initial Jobless Claim, Existing Homesales, Fed Chair Powell Speaks, Philadephia Fed Manufacturing Index / 24 ต.ค. S&P Global Services PMI /     25 ต.ค. -- New Home Sales (Sep) /26 ต.ค. -- Core Durable Goods Orders (MoM) (Sep), GDP (QoQ) (Q3),Initial Jobless Claims, Pending Home Sales (MoM) (Sep)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)