วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลงตามต่างประเทศ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลงตามต่างประเทศ

วันพุธที่ผ่านมา ในระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นราว 7-9 จุด แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ปรับตัวลง โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTT, PTTEP จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ราว 2% แต่มีแรงขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาหาร ในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนีลดช่วงบวก

ประกอบกับประเด็น IMF หั่น GDP ไทยปีนี้เหลือ 2.7% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.4% หลังเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,437.85 จุด +4.45 จุด +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 52,878 ลบ.ต่างชาติ +2,799.98 ลบ. TFEX +18,566 สัญญา ตราสารหนี้ -841.69 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ +1.9% ปิดที่ 88.32 ดอลลาร์/บาร์เรลสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. โดยได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งคาดการณ์อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจจะได้รับผลกระทบหลังจากอิหร่านเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรน้ำมันต่ออิสราเอล
+ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินทั้งระบบ เบื้องต้นจะนำร่องลดราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ในอัตรา 2.50 บาทต่อลิตร จากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน
+ สหรัฐมองตลาดส่งออกเนื้อสัตว์ไทยรับอานิสงส์ความต้องการโลกพุ่งหลังโควิด-19 คลี่คลาย คาดปีนี้มูลค่าแตะ 3 แสนล้านบาท
+ ครม.มีมติอนุมัติในหลักการในการดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาลสำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วงตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดภาวะมลพิษ และลดการใช้พลังงานภายในประเทศ
+ รมว.พาณิชย์ติดตามแผนผลักดันการส่งออกที่เป็นแผนเร่งด่วนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้พบว่าจะมีการจัดกิจกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 73 กิจกรรม โดยคาดว่าเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้กว่า 12,400 ล้านบาทเพื่อผลักดันมูลค่าการส่งออกของไทย
 

 

 

+ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของระบบแบงก์ไทย ในช่วง 9M66 น่าจะทำได้ในกรอบประมาณ 1.86-1.91 แสนล้านบาทจากรายได้จากดอกเบี้ยสุทธิยังน่าจะเติบโตต่อเนื่อง และเป็นแรงหนุนสำคัญของผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 66 เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin : NIM) ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 332.57 จุด หรือ -0.98% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดิ่งลงกว่า 1% ถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.9% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 และกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มบานปลาย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าการอนุญาตก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวพุ่งขึ้น 1.8% สู่ระดับ 965,000 ยูนิตในเดือนก.ย. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 และเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ว่า FED จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 93.2% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 41.6% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 26.3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปี 2566 ลงเหลือ 2.7% จากเดิม 3.4% และปรับลดคาดการณ์ในปี 2567 ลงเหลือ 3.2% จากเดิม 3.6% จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.9% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ส่งผลให้เม็ดเงิน Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,425-1,440 จุด

 

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้รับประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. : HMPRO GLOBAL DOHOME CPALL CPAXT CRC
• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO ILM COM7 CPALL CPAXT CRC TNP KK
• กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย : BBL KBANK SCB KTB
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BDMS CPALL TOP
• น้ำมันขึ้นจากสงคราม : PTTEP SPRC BCP ESSO

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

AWC - (Bloomberg Consensus 5.40 บาท)
Consensus คาดกำไรปกติ 3Q66F ฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลงตามต่างประเทศ

•กำไรครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรกจากกำไรปกติใน 2Q66 เพียง 86 ล้านบาทเทียบกับกำไรสุทธิ 1,122 ล้านบาทที่รวมรายการพิเศษที่เป็นการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน สำหรับงวด 3Q66 คาดจะได้แรงหนุนจากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเป็นผลดีกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้ 70% ของรายได้รวมในการมีอัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องเฉลี่ยที่คาดจะปรับดีขึ้นต่อเนื่อง เราคาดจะเห็นผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายดีขึ้น YoY เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ประกอบกับค่า Ft ที่ลดลงช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก Bloomberg Consensus คาดกำไร 3Q66F เฉลี่ย 1,376 ล้านบาทฟื้นตัว +34%YoY +23%QoQ ราคาหุ้นที่ลดลง 43%YTD ซื้อขายที่ P/E 23x แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอสังหาฯที่ระดับ 14x แต่ลดลงจากระดับสูงสุด 78x ในปี 65 และยังต่ำกว่า P/E กลุ่มโรงแรมที่ระดับ 28 เท่า ทำให้ downside risk มีจำกัด แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

 

หุ้นมีข่าว

(+) GULF (Bloomberg consensus 58.00 บาท) เผยเซ็นสัญญา PPA กับกฟผ. จำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 649.31 เมกะวัตต์ คาดเปิด COD ระหว่างปี 2567-2568 ระบุในอนาคตอยู่ระหว่างทยอยเซ็นสัญญาเพิ่มเติมสำหรับโครงการที่มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569-2573 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SRS (Bloomberg consensus – บาท) จัดทัพนักพัฒนา High Code วางเป้าหมายชัดยกระดับไอที เร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ ส่งซิกโค้งท้ายแนวโน้มสดใส จ่อคว้างานเข้าพอร์ตเพิ่ม เตรียมส่งมอบงานช่วงครึ่งปีหลังอีกกว่า 297 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EKH (Bloomberg consensus 9.56 บาท) ปี 2567 เตรียมแผนลงทุนสร้าง รพ.คูน อ่าวนาง มูลค่า 150 ล้านบาท ช่วงไตรมาส 2/2567 และขยายเตียงของ รพ.เอกชัย เพิ่ม 58 เตียง มูลค่า 250-300 ล้านบาท รองรับการเติบโตในอนาคต ด้านธุรกิจ IVF ปี 2567 คาดการณ์จำนวนเคสเติบโต 10-20% จากปี 2566 คาดจบ 300 เคส ตามเป้า และขยับสัดส่วนรายได้ขึ้นเป็น 13% ในปี 2566 จากปีก่อน 8% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPW (Bloomberg consensus 3.16 บาท) ย้ำตลาดสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์โตแรง สอดรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ล่าสุด เดินหน้าผนึกพาร์ตเนอร์ โดย KOAN ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย RUARK AUDIO แบรนด์ลำโพงและเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ พร้อมเปิดตัวลำโพงและวิทยุตั้งโต๊ะอัจฉริยะ 5 รุ่นใหม่ R1S, R2, R3S, MR1 และ R410 รุกตลาดเครื่องเสียงระดับลักซ์ชัวรี เมืองไทย รับเทรนด์ตลาดบ้านหรูโตแรง (ที่มา ทันหุ้น)