วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก DELTA กดตลาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด :  บล.โกลเบล็ก DELTA กดตลาด

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเปิดในแดนบวก แต่มีแรงขายเร่งตัวในเวลาต่อมา ทำให้ดัชนีปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว แรงขายกระจายตัวในหลาย sector เช่น กลุ่มพลังงาน ค้าปลีก ไอซีที เป็นต้น

โดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่อยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้น ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,482.14 จุด -15.01 จุด -1.00% มูลค่าการซื้อขาย 59,089 ลบ. ต่างชาติ -2,701.87 ลบ. TFEX -12,983 สัญญา ตราสารหนี้ -2,945.84 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 116.07 จุด หรือ +0.35% โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวของสภาคองเกรส
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สาหรับ GDP 2Q66 โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2
+ EEC ลงนามร่วมภาคีภาครัฐ-เอกชน หนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนส่งสาธารณะและรับส่งพนักงานในพื้นที่ นำร่องปี 66 เกิดรถโดยสารไฟฟ้า 100 คัน คาดใน 5 ปีเพิ่มเป็น 6,000 คัน พร้อมลุยพัฒนาระบบนิเวศการลงทุน หนุนแรงจูงใจดันคลัสเตอร์ EV

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.97 ดอลลาร์ -2.1% ปิดที่ 91.71 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลว่า ภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- ตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศระงับการซื้อขายหุ้นบริษัทไชน่า เอเวอร์ แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีน พร้อมด้วยบริษัทในเครือ หลังจากมีรายงานว่า นายหุย กาหยั่น ประธานไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ถูกตำรวจควบคุมตัว
 

- สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนสิงหาคม ปี2566 อยู่ที่ระดับ 91.85 ลดลง 7.53% ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 ลดลงเฉลี่ย 4.95% เป็นผลจากการส่งออกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป
- ม.หอการค้าไทยลดประมาณการ GDP ปี 66 เหลือโต 3% จากเดิม 3.6% เหตุเศรษฐกิจไทยชะลอตัวกว่าที่คาด การส่งออกไทยยังคงหดตัว 2% และมีหนี้ครัวเรือน อยู่ที่ระดับ 89.5% และยังมีปัญหาล่าช้าในการจัดทางบประมาณปี 2567 รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้ง

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงจากปัจจัยเฉพาะตัว หลังมีข่าวว่า DELTA จะมี big lot มูลค่า USD230 ล้าน หรือราว 8.4 พันลบ. ที่ราคา 94.75 บาท/หุ้น คิดเป็น discount 10% จากราคาปิด กรอบดัชนีในวันนี้ 1,470-1,490 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้รับประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. : HMPRO GLOBAL DOHOME CPALL CPAXT CRC
• หุ้นที่ได้รับประโยชน์นโยบายฟรีวีซ่า : AOT CENTEL ERW SPA RP AU
• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO DOHOME GLOBAL ILM COM7 CPALL CRC MAKRO TNP KK
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP
• กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย : BBL KBANK SCB KTB

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

WARRIX - คาดรายได้ 2H66 เข้าสู่ช่วง Peak ของบริษัท
IAA Consensus 11.00-13.00 บาท

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด :  บล.โกลเบล็ก DELTA กดตลาด

•รายงานรายได้ 2Q66 เท่ากับ 256 ลบ. +26%YoY, +3%QoQ และมีกำไรสุทธิ 21 ลบ. +69%YoY, +89%QoQ สาเหตุมาจากการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬามากเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 45% ใน 2Q65 เป็น 48% เนื่องจากบริษัทสั่งซื้อวัตถุดิบในปริมาณมากทำให้เกิด Economies of scale ในการผลิตหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิ 1H66 เท่ากับ 32 ล้านบาท +29%YoY

•ผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 66 เท่ากับ 1.4 พันล้านบาท +30%YoY โดยรายได้ 1H66 คิดเป็น 37% ของเป้ารายได้ทั้งปี อีกทั้งบริษัทเร่งพัฒนาเสื้อผ้าแบบ Active Sport และ Active Lifestyle หวังเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น ขณะที่ปลาย 2Q66 บริษัทได้ลิขสิทธิ์ผลิตชุดฟุตบอลจากสโมสรชั้นนำในมาเลเซียและกัมพูชาเพิ่มจากทีมชาติไทยในปัจจุบัน คาดหนุนรายได้เพิ่มขึ้น

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 2H66 เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Seasonal ของบริษัท อีกทั้งตั้งแต่ช่วงกลาง 3Q66 บริษัทเปิดตัวชุดฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหม่ จึงเป็นโอกาสเพิ่มยอดขายในทัวร์นาเมนต์ King’s cup และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก คาดหนุนยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา +26%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 40 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 25 เท่า เราจึงแนะนำ “เก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) ERW (Bloomberg consensus 6.10 บาท) รับอานิสงส์บาทอ่อนค่า นักท่องเที่ยวแห่จองหนุน OCC พุ่งแตะ 80% ทั้งยังใช้จ่ายเยอะขึ้น ลุ้นอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปี 2566 เร่งตัวเท่าปี 2562 มั่นใจบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย้ำแผนกระจายพอร์ตโรงแรมทุกระดับครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ITEL (Bloomberg consensus 3.75 บาท) ซุ่มดีลซื้อกิจการเช่าเครื่องมือแพทย์ต่อยอด พร้อมเล็งลงทุนธุรกิจพลังงานเพื่อนำไฟฟ้ามาใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ คาดปีนี้ใช้เงินทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท มองงบครึ่งปีหลังโตดี มุ่งขยายมาร์จิ้นเพิ่ม พร้อมประมูลงานกว่า 2.7 พันล้านบาท ขณะที่คงเป้ารายได้ที่ 3.7 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SPA (Bloomberg consensus 14.30 บาท) ปรับเป้ารายได้ใหม่เติบโต 100% แตะ 1.4 พันล้านบาท จากครึ่งปีแรกโกยรายได้แล้ว 684.38 ล้านบาท ชี้ธุรกิจสปากลับมาฟื้นตัว หลังโควิดคลี่คลาย มั่นใจผลงานไตรมาส 3-4 พีค รับไฮซีซัน นักท่องเที่ยวเข้าไทยพรึ่บ แถมรัฐเปิดฟรีวีซ่า เล็งเปิดสาขาทำเงินเพิ่ม 4 แห่งรองรับ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SKY (Bloomberg consensus - บาท) ไฮซีซันท่องเที่ยวหนุนการบินบูม ยอดใช้บริการสนามบินทะลัก ส่งซิกโค้งท้ายสดใส ฟากบอสใหญ่ "สิทธิเดช มัยลาภ" เปิดพอร์ตรับทรัพย์ SAMCO จับตางานประมูลรอบใหม่ เชื่อเอกชนทยอยลงทุนโปรเจ็กต์หลักพันล้าน มั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัด โตไม่ต่ำกว่า 20% (ที่มา ทันหุ้น)