วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก แนวรับสำคัญ 1,500

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก แนวรับสำคัญ 1,500

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway down ต่อเนื่อง เป็นแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก และขนส่ง เป็นต้น นักลงทุนจับตาประเด็นสำคัญ ช่วงกลางสัปดาห์ คือ การประชุมกนง.

โดยจากข้อมูลของ Bloomberg คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น ทำให้ดัชนีปิดที่จุดต่ำสุดของวัน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,507.36 จุด -15.23 จุด -1.00% มูลค่าการซื้อขาย 42,194 ลบ. ต่างชาติ -2,661.64 ลบ. TFEX -33,748 สัญญา ตราสารหนี้ -5,404.80 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 43.04 จุด หรือ +0.13% ฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ FED ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
+ แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.9% ใน 3Q66 หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
+ สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ของจีนรายงานว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเตรียมแห่เดินทางออกนอกประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุด Golden Week ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ก.ย.-6 ต.ค.
+ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธปท. จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 2.25% ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงปี 2568
+ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวว่า เทสลา (Tesla) กูเกิล (Google) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) อาจทุ่มเม็ดเงินอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 35 เซนต์ -0.39% ปิดที่ 89.68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรัสเซียประกาศผ่อนคลายคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลว่าการที่ FED คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่จะพยายามผลักดันการปรับลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลง แต่ไม่มีแนวโน้มได้รับการอนุมัติและออกเป็นกฎหมาย ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐบางส่วนอาจจะต้องยุติการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ต.ค.
- โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า บริษัทบัตรเครดิตในสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการขาดทุนมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกครั้งใหญ่
- สสว. เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME ประจำเดือนสิงหาคม 2566 เปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่า ค่าดัชนี SMESI อยู่ที่ระดับ 51.4 ลดลงจากระดับ 52.0 จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอลง ปริมาณการสั่งซื้อต่อครั้งลดลง ตามภาระค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ยังไหลออกต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนยังจับตาการประชุม กนง. ในวันที่ 27 ก.ย. เพื่อรอดูนโยบายอัตราดอกเบี้ย กรอบดัชนีในวันนี้ 1,500 -1,515 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้รับประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. : HMPRO GLOBAL DOHOME CPALL CPAXT CRC
• หุ้นที่ได้รับประโยชน์นโยบายฟรีวีซ่า : AOT CENTEL ERW SPA RP AU
• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO DOHOME GLOBAL ILM COM7 CPALL CRC MAKRO TNP KK
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

SAV <SET/TRANS> ราคา IPO 19.00 บาท
ราคาเหมาะสม 25-29 บาท

•SAV หรือ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ที่ประกอบธุรกิจบริหารจัดการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาทุกสนามบินแต่เพียงผู้เดียวตามสัญญาสัมปทานที่ได้รับจากรัฐบาลประเทศกัมพูชาโดยเริ่มทำสัญญาสัมปทานในปี 2544 และเริ่มนับอายุสัมปทานตั้งแต่ปี 2545 ถึงปี 2594 โดยแบ่งรายได้เป็น 3 ประเภท 1) รายได้จาก Landing & Take-off : Domestics 2) รายได้จาก Landing & Take-off : International และ 3) รายได้จาก Overflight ในสัดส่วน 1% 26% และ 73% ตามลำดับ

•รายได้ปี 63-65 อยู่ที่ 714 456 และ 1,217 ลบ.ตามลำดับและกำไรสุทธิปี 63-65 อยู่ที่ ขาดทุน 42.3 ลบ. ขาดทุน 74.4 ลบ. และกำไร 199.6 ลบ. ตามลำดับ โดยรายได้และกำไรปี 64 หดตัวเนื่องจากสายการบินหยุดการบินจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตามรายได้และกำไร 1H66 เติบโต 75%YoY และ 148%YoY สู่ 709 ลบ. และ 114 ลบ. ตามลำดับ หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายทำให้การเดินทางกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

•จำนวนหุ้น IPO 166 ล้านหุ้น แบ่งเป็นการออกหุ้นใหม่ 64 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเดิมและจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จำนวนไม่เกิน 102 ล้านหุ้น และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 12,160 ลบ. ราคา IPO คิดเป็น trailing P/E 46.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 57 เท่า

•การระดมทุนเพื่อ 1.เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ และ 2.เพื่อใช้ชำระคืนหนี้สินกับสถาบันการเงิน

หุ้นมีข่าว

(+) JR (Bloomberg consensus - บาท) ลั่น Q4/2566 ทะยานต่อเนื่อง โครงการเรียงคิวบุ๊กอื้อ ปีนี้รายได้ตามนัดพุ่ง 15-20% โชว์ฝีมือคว้างาน กฟผ. 743.70 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกเฉียด 1.1 หมื่นล้านบาท กินยาวไม่ต่ำกว่า 3 ปี บอสใหญ่ "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" ย้ำจะมีงานเข้าต่อเนื่อง สร้างผลงานนิวไฮไม่หยุด ชูบริหารต้นทุนดี การเงินแกร่ง สภาพคล่องเพียบ พร้อมต่อยอดระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EA (Bloomberg consensus 80.00 บาท) เซ็นสัญญาโรงไฟฟ้าขยะเทศบาลนครภูเก็ต มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท ขนาดเตาเผาไม่น้อยกว่า 500 ตันต่อวัน ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 9.9 เมกะวัตต์ คาดสร้างเสร็จภายใน 3 ปี จ่อรับรู้รายได้ในปี 2569 ผูกสัญญาขายไฟให้กับ PEA เป็นระยะเวลา 20 ปี ก่อนส่งมอบ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg consensus 42.00 บาท) ทยอยรับนักเรียนใหม่เข้ามาเพิ่ม มองผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 จะเริ่มดีขึ้นจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาส ตั้งเป้าการเติบโตของจำนวนนักเรียนในปี 2567-2569 แตะระดับ 5,400 คน จากสิ้นปีนี้คาดจบที่ 4,100 คน ลุยขยายโรงเรียนนานาชาติ เชียงใหม่ เฟส 2 คาดเปิดให้บริการปี 2567 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) I2 (Bloomberg consensus - บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/2566 โตต่อเนื่อง อวดแบ็กล็อกในมือหนา 2 พันล้านบาท คาดรับรู้ในช่วงที่เหลือปีนี้ประมาณ 30-40% อีกทั้งยังมีงานรอเซ็นสัญญาในมือมูลค่ารวมอีกกว่า 300 ล้านบาท มองว่ากว่าครึ่งเห็นความชัดเจนในครึ่งหลังปีนี้ มั่นใจผลงานปี 2566 โตเข้าเป้า 15% จากปีก่อน ฟุ้งงาน BESS บนเกาะสมุย ของกิจการร่วมค้า หนุนงบโค้ง 4/2566 พีคสุด (ที่มา ทันหุ้น)