วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector ไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดรออยู่ข้างหน้า

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector ไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดรออยู่ข้างหน้า

กำไรสุทธิรวมใน 2Q66 ของ 6 บริษัทในกลุ่มอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท (-10.7% YoY, -5.5% QoQ) บริษัทในกลุ่มโรงพยาบาลที่เราศึกษาอยู่มีกำไรสุทธิใน 2Q66 ดังนี้

• Bangkok Chain Hospital (BCH.BK/BCH TB)* - กำไรสุทธิของ BCH ใน 2Q66 อยู่ที่ 284 ล้านบาท (-75.1% YoY, +12.0% QoQ)

• Bangkok Dusit Medical Services (BDMS.BK/BDMS TB)* - กำไรสุทธิของ BDMS ใน 2Q66 อยู่ที่ 3.06 พันล้านบาท (+15.0% YoY, -11.7% QoQ)

• Bumrungrad Hospital (BH.BK/BH TB)* - กำไรสุทธิของ BH ใน 2Q66 อยู่ที่ 1.74 พันล้านบาท (+49.9% YoY, +10.4% QoQ)

• Chularat Hospital (CHG.BK/CHG TB)* - กำไรสุทธิของ CHG ใน 2Q66 อยู่ที่ 206 ล้านบาท (-76.5% YoY, -14.3% QoQ)

• Ekachai Hospital (EKH.BK/EKH TB) - กำไรสุทธิของ EKH ใน 2Q66 อยู่ที่ 26 ล้านบาท (-46.5% YoY, -66.7% QoQ) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ 45 ล้านบาท จากการปรับมูลค่ายุติธรรม (fair value) ของ The Klinique Medical Center (KLINIQ.BK/KLINIQ TB) กำไรปกติของ EKH จะอยู่ที่ 71 ล้านบาท (+45.4% YoY, +43.1% QoQ)

• Ladprao Hospital (LPH.BK/LPH TB) - กำไรสุทธิของ LPH ใน 2Q66 อ่อนแอมาก โดยอยู่ที่ 6 ล้านบาทเท่านั้น (-92.0% YoY, -67.1% QoQ)

 

คาดว่าผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะแข็งแกร่งใน 3Q66

เราคาดว่า 3Q66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ของกลุ่มโรงพยาบาล หลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 ผ่านไปแล้ว โดยธุรกิจของโรงพยาบาลส่วนใหญ่กลับไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาดแล้ว โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ BH* ได้อานิสงส์มากที่สุดจากประเด็นนี้โดยกำไรสุทธิใน 2Q66 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75 พันล้านบาท เพราะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนถึง 66% เราคาดว่ากำไรของ BH จะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q66 จากการที่จำนวนผู้ป่วย และ intensity เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งคู่ในช่วง high season

 

โรงพยาบาลใหญ่มีแนวโน้มแข็งแกร่งใน 2H66

เรามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มของโรงพยาบาลใหญ่ในช่วงสองไตรมาสข้างหน้า เนื่องจาก i) จำนวนผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ii) รายได้ต่อบิลมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น เพราะการรักษาพยายาบาลมีความซับซ้อนมากขึ้นหลังสถานการณ์โรคระบาด iii) มี platform ที่แข็งแกร่งสำหรับการรักษาที่หลากหลาย และ iv) ได้อานิสงส์จากการใช้งานสินทรัพย์

 

โรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กจะได้อานิสงส์จากปัจจัยฤดูกาลใน 3Q

ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กจะดูไม่โดดเด่นเท่าโรงพยาบาลใหญ่ แต่ผลประกอบการก็น่าจะดีขึ้น HoH ในงวด 2H66 แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า คือเราคาดว่า 3Q66 จะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการของโรงพยาบาลส่วนใหญ่แข็งแกร่งที่สุด โดยจะโตทั้ง YoY และ QoQ สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั้งจำนวนผู้ป่วย และ intensity ของเคส รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

 

 

Valuation & Action
 

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Overweight โดยเลือก BDMS และ BH เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2023 ที่ 36.50 บาท และ 300 บาท ตามลำดับ

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าเกินคาด

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector ไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดรออยู่ข้างหน้า