วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เก็งกำไรรายตัวระหว่างรอประชุมธนาคารกลางทั่วโลก

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เก็งกำไรรายตัวระหว่างรอประชุมธนาคารกลางทั่วโลก

ปรับลดค่า Ft สำหรับก.ย.-ธ.ค.66 เหลือ 3.99 บาท/หน่วย ลดลง 2 ครั้งใน 7 วันจาก 4.45 เป็น 4.10 และ 3.99 บาท/หน่วย เรามีมมุมมองต่อการดำเนินการดังกล่าวดังนี้

1) เป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะที่มีการขายไฟภาคเอกชนที่อ้างอิงรายได้กับค่า Ft ซึ่งผู้ผลิตในกลุ่มดังกล่าวที่มีสัดส่วนขายไฟให้เอกชนเยอะ ได้แก่ BGRIM และ GPSC จะมีความเสี่ยงของการถูกปรับประมาณการรายได้ลง 2) กลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจากค่าไฟที่ลดลง ได้แก่ ค้าปลีก โรงแรม สื่อสาร น่าจะได้รับปัจจัยบวกในระยะสั้น ขณะที่ใน 2 เดือนข้างหน้า กลุ่มค้าปลีกและโรงแรม อาจมีปัจจัยรบระยะสั้นมารบกวนจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในช่วง พ.ย. ซึ่งจะมีผลประมาณ ม.ค.67 ทั้งนี้หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ ได้แก่ CPALL, CPAXT, ERW, CENTEL, SPA, ADVANC, TRUE

การเก็บภาษีกำไรลงทุนต่างประเทศ มีแนวโน้มเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะกลาง สรรพากรมีคำสั่งกำหนดแนวปฏิบัติในการตรวจและแนะนำผู้อยู่ในประเทศไทยที่มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40 และจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศตามมาตรา 41 ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.67 จะทำให้การเลี่ยงภาษีกำไรจากการลงทุนผ่านการนำเงินได้เข้าคนละปีกับที่เกิดเงินได้ ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป โดยสรุป 1) ผลกระทบดังกล่าวจะเกิดจากการลงทุนต่างประเทศทางตรง 2) การลงทุนต่างประเทศผ่านกองทุนรวมไม่ได้รับผลกระทบ 3) ทำให้การลงทุนต่างประเทศอาจมีผลกระทบจากภาษีที่ผู้ลงทุนต้องคำนึงมากขึ้น 4) การลงทุนในไทยอาจดูน่าสนใจในเชียงเปรียบเทียบ จากประเด็นกังวลเรื่องภาษีที่น้อยกว่า และไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเช่นการลงทุนต่างประเทศ
 

ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมยังไม่เสียหากไม่หลุด 1,520 จุด ยังเน้นเลือกลงทุนรายตัว  กลุ่มที่น่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง ได้แก่ พลังงาน ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และธนาคารใหญ่ (ทางกลยุทธ์มอง KBANK และ BBL ที่มี SME เยอะ อาจบวกมากกว่ากลุ่ม) 3) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้นเด่นที่เราชอบในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ได้แก่ PTTEP, TOP, PTG, OR / CPAXT, TIDLOR / AOT, AWC, SPA / CPN, AP

หุ้นแนะนำ: TRUE*, SAMART*, ZEN*, MENA*

แนวรับ: 1,520 / แนวต้าน : 1,535 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

เยลเลนเชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย - โดยตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี นางเยลเลนเตือนว่าความล้มเหลวของสภาคองเกรสในการออกกฎหมายเพื่อให้รัฐบาลสามารถเปิดดำเนินการต่อไปได้ จะสร้างความเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
 

ลดค่าไฟงวด ก.ย. – ธ.ค. 23 - ครม. เห็นชอบค่าไฟฟ้า ในอัตราไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ หลังลดลงเหลือหน่วยละไม่เกิน 4.10 บาท ในการประชุมก่อนหน้า 

ทัวร์จีนโฟกัสเที่ยวไทย – ททท. ลั่น 5 มณฑลจีนสนใจเที่ยวไทย เอเจนซีเร่งทำการตลาด เล็งดูดจีนเที่ยวไทยโค้งสุดท้ายเดือนละ 7 แสนคน ปลื้มใช้จ่ายต่อหัวสูงขึ้น 9-11% ด้าน CAAT เสริมศักยภาพดอนเมืองเพิ่มเป็น 57 ไฟลท์ต่อชั่วโมงรองรับ เตรียมบุคลากรพร้อมให้บริการ

SAMART เบียร์คึก SAV ฮิตหนุนแกร่ง – SAMART รัฐบาลใหม่เร่งงาน ลั่นทรานส์ฟอร์มเป็นโอกาสรับงานอื้อ ขณะที่ธุรกิจเก็บภาษีเบียร์โดดเด่น ตลาดคึกคัก มีผู้เล่นมากขึ้น เตรียมรับบูมใหญ่ท่องเที่ยว จับตาเก็บภาษีแอลกอฮอล์อื่น แย้มไอพีโอ SAV มาแรง จองล้น ทำ SAMART รับประโยชน์ ชูไซเลนต์พีเรียด 100% ด้าน SAMTEL เตรียมประมูลงานหลายพันล้านบาท

TRUE ขายสินทรัพย์ 6 หมื่นล. – TRUE ขายสินทรัพย์หลังควบดีแทค เข้ากองทุน DIF เพิ่ม เริ่มต้นปี 67 พร้อมเสนอบอร์ดอนุมัติปลายปีนี้ นำเงินไปขยายธุรกิจ 5G หนี AIS 

 

ประเด็นติดตาม: 18-24 ก.ย. BOI โรดโชว์พบนักลงทุนสหรัฐฯ/ 19 ก.ย. – EU CPI, US Building Permits, Housing Starts/ 21 ก.ย. – Fed Interest Rate Decision, US Existing Home Sales, Initial jobless claims/ 27 ก.ย. ประชุม กนง. ซึ่งธปท.จะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ลง 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)