วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ M แนวโน้มการดำเนินงานมีความผสมผสานกัน

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ M แนวโน้มการดำเนินงานมีความผสมผสานกัน

โมเมนตัมรายได้ของ M หลังช่วงโรคระบาดโควิดยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ รายได้ใน 1H66 ยังคงต่ำกว่าระดับก่อนช่วงโรคโควิดระบาดราว 4-5%

โดย guidance จากบริษัทชี้ว่าอัตราการเติบโตของรายได้ในสาขาเดิม (SSSG) เดือนกรกฎาคม 2566 ลดลง 2% แต่กลับเป็นบวกเล็กน้อยที่ 2-3% ในเดือนสิงหาคมปีนี้ เนื่องจากฐานสูงช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตาม เราคาดรายได้ 3Q66F อ่อนตัว QoQ แต่จะเร่งตัวขึ้นใน 4Q66F จากปัจจัยฤดูกาล โดยเรามองว่ารายได้ใน 2H66 จะเติบโต HoH ท่ามกลาง SSSG ใน 2H66 ค่อนไปทางเลขต่ำหลักเดียว ทั้งนี้ รายได้ 1H66 คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรสุทธิเราปีนี้

 

แนวโน้มการดำเนินงานมีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบใน 2H66F และปี 2567F

หลังจากราคาหมูลดลง 15-20% บริษัทได้เจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์อีกครั้ง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 2Q66 ดีกว่าคาดอยู่ที่ 65.7% และสูงขึ้นที่ 65.4% ใน 1H66 (เทียบกับสมมติฐานเดิมของเราเต็มปีนี้ที่ 64.5%) อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าการพิ่มขึ้นของ GPM ใน 2H66F จะได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ เนื่องจากราคาเป็ดที่เพิ่มขึ้น 5% อาจส่งผลลบต่อผลการดำเนินงานใน 3Q66F เป็นต้น เมื่อมองไปข้างหน้าประมาณการ GPM เดิมปี 2567 ของเราค่อนไปทางเชิงรุก (aggressive) ที่ 66.4% ตามประมาณการของฝ่ายวิจัย KGI ที่คาดราคาเนื้อสัตว์เพิ่ม 4-7%YoY ส่วนข้อเสียเปรียบจากรายจ่าย SG&A ใน 2Q66 พุ่งขึ้นและสูงกว่าประมาณการของเรามาจากต้นทุนค่าแรงงานและค่าสาธารณูปโภคเป็นสำคัญ ขณะที่สัดส่วน
SG&A/ยอดขาย ใน 1H66 เพิ่มขึ้นเป็น 56% (สูงกว่าประมาณการเดิมเต็มปีนี้ของเราที่ 53%)

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566-2567F ลง

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F และปีหน้าลง 6% และ14% ตามลำดับ เพื่อสะท้อน i) ปรับเพิ่มสัดส่วน SG&A/ยอดขายขึ้นที่ 55.4% และ 54.2% (จาก 53.3% และ 53.2%) ii) ปรับอัตรากำไรขั้นต้นใหม่เป็น 65.5% และ 65.1% (จาก 64.5% และ 66.4%) และ iii) ปรับเพิ่มรายได้รายปีขึ้น 2-3% ในแต่ละปี (กล่าวคือมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 11%/5% ในปี 2566F/2567F) โดยรวมแล้ว กำไรใน 1H66 ที่ 784 ล้านบาท(+10% YoY) คิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรสุทธิใหม่ของเราสำหรับปี 2566F

 

Valuation & action

ผลของการปรับประมาณกำไรใหม่และการขยับราคาเป้าหมายไปเป็นสิ้นปี 2567 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 52.25 บาท (อิงจาก PE ที่ 26x หรือเท่ากับ -0.5 S.D) จากเดิม 52.00 บาท (PE ที่ 27x) ขณะที่ เรา de-rate PE ลงมาที่ -0.5 S.D เพื่อสะท้อน i) การปรับลดประมาณการกำไรลง และ ii) การแข่งขันของร้านอาหารประเภทสุกี้และชาบูมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ถือ” หุ้น M

 

Risks

เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ SSSG ชะลอตัวเกินคาด และการแข่งขันในธุรกิจอาหาร

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ M แนวโน้มการดำเนินงานมีความผสมผสานกัน