วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามการประชุมที่ Jackson Hole

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามการประชุมที่ Jackson Hole

บรรยากาศลงทุนตลาดโลกระยะสั้นชะลอตัว เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง เราคาดแรงทำกำไรระยะสั้นมาจาก

1) แรงขายทำกำไรหุ้น NVDA (แม้รายงานกำไรและให้มุมมองข้างหน้าแข็งแกร่ง) หลังหุ้นปรับขึ้นมาสูงสุดราว 240% นับจากต้นปี 2) ความเห็นกรรมการเฟดบอสตัน ซูซาน คอลลิน ที่มองว่าเฟดใกล้ถึงจุดสูงสุดของการขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังอาจต้องขึ้นต่อเนื่องอีกเล็กน้อย ขณะที่ประธานเฟดฟิลาเดลเฟีย แพทริค ฮาร์เกอร์ มองว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ยพอแล้ว และน่าจะเริ่มสามารถตรึงดอกเบี้ย ซึ่งความเห็นที่ไม่สอดคล้องทำให้ตลาดอาจจะกลับมาระวังในช่วงใกล้ประชุม ก.ย. 3) นักลงทุนรอติดตามถ้อยแถลงประธานเฟด และประธานธนาคารกลางสำคัญอื่นๆ ที่น่าจะสื่อสารผ่านการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐฯ Jackson Hole วันที่ 24-26 ส.ค.

ผลดีการเมืองอาจเริ่มแผ่ว ตลาดจะกลับมามองภาพเศรษฐกิจระยะต่อไปมากขึ้น แม้ดัชนีหุ้นไทยจะปรับขึ้นได้ดี โดย +8.40 จุด ปิดที่ 1,557 จุด อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตสำคัญคือ 1) ตลาดถูกผลักดัยโดยหุ้น DELTA ที่มี Impact ให้ดัชนี +7.59 จุด 2) กลุ่มธนาคารมีแรงขายทำกำไร หลังส่วนใหญ่สะท้อนปัจจัยบวกทั้งงบ และปันผลระหว่างกาลแล้ว ขณะที่มีปัจจัยเสี่ยงจากการปรับลด GDP ปี 2566 ที่สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์วันก่อนลงเหลือ +2.75% (จาก +3.20%) ดังนั้นการปรับลงของธนาคาร อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดจะกลับมามองที่ภาพเศรษฐกิจในประเทศในช่วงปลายปีมากขึ้น และทำให้อาจต้องระวังกลุ่มที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายภาครัฐ ที่จะเริ่มได้รับผลลบจากการใช้จ่ายที่ต่ำในช่วง 1-2 ไตรมาสหน้า 
 

ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมบรรยากาศลงทุนเป็นบวก แต่อาจมีแรงทำกำไรระยะสั้น การเก็งกำไรเน้นหุ้นโซนต่ำ หรือรอซื้อเมื่ออ่อนตัว (Buy on dip) ในกลุ่มที่ขึ้นมามาก  กลุ่มทีน่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง 3) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว 4) กลุ่มไฟแนนซ์ จากความหวัง Digital wallet เพิ่มความสามารถในการชำระหนี้

หุ้นแนะนำ: CPN*, CPAXT*, PTG*, MENA*

แนวรับ: 1,535 / แนวต้าน : 1,560-1,580 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
 

ยอดส่งออกรถยนต์โต – ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 30.05% yoy ขณะที่มูลค่าการส่งออก เพิ่มขึ้น 21.32% yoy เป็นผลจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตรถยนต์คลี่คลาย ทำให้สถานการณ์การผลิตเริ่มกลับมาสู่ระดับปกติ ทั้งนี้ ส.อ.ท.คาดว่าในปี 66 จะสามารถส่งออกรถยนต์ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.05 ล้านคัน ซึ่งเป็นระดับที่เทียบเท่ากับในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 62 

SPCG รายได้ทะยานต่อ – SPCG ปรับเป้ารายได้ปี 2566 โตต่อเนื่องที่ราว 4.4 พันล้านบาท อานิสงส์ค่า Ft ใหม่หนุน ยอดขายโซลาร์รูฟท็อปสดใส พร้อมเริ่มเก็บเกี่ยวไฟฟ้าญี่ปุ่นเข้าพอร์ตต่อเนื่อง หนุนรายรับเพิ่ม แถมวางหมากปั๊มกำลังผลิตแตะ 1,000 เมกะวัตต์ ใน 5 ปี
 

 

 

JAS ลุ้นปันผล – คาดได้รับปันผลระหว่างกาล 2.25 บาทต่อหุ้น หลังปิดดีลขายหุ้น 3BB-JASIF กว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ภายใน Q3-Q4 นี้ ล่าสุดอนุกรรมการ 4 ชุด ทำโฟกัสกรุ๊ปกรณี AIS ควบ 3BB เสร็จหมดแล้ว เตรียมเสนอบอร์ดกสทช.เคาะเร็วๆ นี้ 

หุ้นที่น่าสนใจทางเทคนิค: TCAP, DMT, ERW, BCH, BJC, BA, MC, AUCT

 

ประเด็นติดตาม: 25 ส.ค. –Jackson Hole Symposium/ 29 ส.ค. – US CB Consumer Confidence, JOLTs Job Openings/ 30 ส.ค. – US ADP Nonfarm Employment Change, GDP, Pending Home Sales

 (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)