วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาประชุมเฟด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาประชุมเฟด

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นราว 11-12 จุด ยืนในแดนบวกได้อย่างแข็งแกร่ง แรงซื้อจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, KCE, HANA เก็งกำไรตามผลประกอบของ NVIDIA และแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีแรงซื้อเข้ามามาก

นักลงทุนติดตามการฟอร์มรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง หลังนายเศรษฐา ทวีสินเสร็จสิ้นพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,557.41 จุด +8.40 จุด +0.54% มูลค่าการซื้อขาย 68,546 ลบ.ต่างชาติ +808.09 ลบ. TFEX +48,923 สัญญา ตราสารหนี้ +942.03 ลบ.
 

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ +0.2% ปิดที่ 79.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดีเซลในยุโรปลดลง อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมัน WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์เป็นปัจจัยกดดันตลาดในระหว่างวัน
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.9% ใน 3Q66 (28 ก.ค. 3.5%, 1 ส.ค. 3.9%, 8 ส.ค. 4.1%, 15 ส.ค. 5.8%) หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.4% ใน 1Q66 และ 2Q66 ตามลำดับ
+ นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
+ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทเดือน ก.ค.66 อยู่ที่ 149,709 คัน เพิ่มขึ้น 4.72%MoM มาจากการผลิตเพื่อการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 7M66 (ม.ค.-ก.ค.) อยู่ที่ 1,071,221 คัน เพิ่มขึ้น 0.66%YoY พร้อมระบุว่าหนี้ครัวเรือนที่พุ่งขึ้นกดดันแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อรถยนต์ฉุดเป้าผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอาจไม่ถึง 8.5 แสนคัน

 

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 373.56 จุด -1.08% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ต่างก็ดิ่งลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันนี้ 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐหรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย
 

 

 

- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
- จีนจะระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่นโดยมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากญี่ปุ่นเริ่มทำการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล
- เกาหลีเหนือ เปิดเผยว่าการปล่อยดาวเทียมสอดแนมด้านการทหารขึ้นสู่อวกาศครั้งที่ 2 ไม่ประสบผลสำเร็จ ในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นประณามเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธข้ามทวีป
- กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกังวลว่าส่งออกของไทยปีนี้อาจไม่ถึงเป้าหมายที่ 1-2% เหตุเศรษฐกิจจีนชะลอกว่าคาด
- งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ตามกรอบเดิมที่รัฐบาลเคยอนุมัติไว้ 3.35 ล้านล้านบาท ประมาณการรายได้ 2.757 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 593,000 ล้านบาท ภาระหนี้สาธารณะ 61.35 ต่อ GDP

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัวตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟด ของนายเจอโรม พาวเวล ในวันนี้ เพื่อรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,550-1,563 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY XPG
• FETCO แนะนำกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ : ERW CENTEL SPA
• iPhone 15 เปิดตัว ก.ย. : COM7 SPVI CPW SYNEX
• MSCI rebalance มีผล 1 ก.ย. : MSCI Global Standard Index เข้า TTB ออก CBG SAWAD MSCI Small cap index เข้า CBG COM7 ITC PSG SAWAD ออก PTL SINGER S
• หุ้นได้ประโยชน์จากกรณีญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีลงทะเล : TU ASIAN TC CFRESH

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

ASIAN - เก็งกำไร (Bloomberg Consensus 9.00 บาท)
"คาดผลการดำเนินงาน 2H23 ฟื้นตัว HoH"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาประชุมเฟด

•งวด 2Q23 บริษัทมีกำไรสุทธิ 16 ลบ. -69%QoQ, -94%YoY โดยมีรายได้เท่ากับ 2,338 ลบ. +3%QoQ, -17%YoY รายได้ที่ลดลง YoY สาเหตุหลักจากผลการดำเนินงานธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง มีปริมาณการขายลดลง จากคำสั่งซื้อที่ลดลงจากตลาดสหรัฐฯ มีสินค้าล้นสต็อกและธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง มีปริมาณการขายลดลง ตามการบริโภคในตลาดสหรัฐฯ %GPM เท่ากับ 11.4% เพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY จากระดับ 9.2% ใน 1Q23 และ 19.4% ใน 2Q22 สาเหตุจากการผลิตที่ลดลงของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

•Outlook ปี23 บริษัทคาดว่ายอดขายรวมอยู่ที่ราว 1 หมื่นลบ. ลดลง 11%YoY จากการปรับลดเป้ารายได้ ของธุรกิจ Pet Food, Frozen Food, Aqua Feed ในขณะที่ธุรกิจทูน่าบริษัทคาดว่ายังเติบโต ราว 7%YoY และ คาด %GPM ปี 23 อยู่ที่ระดับ 10-11% (ปี 22 ระดับ 18.2%)

ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวก ต่อผลการดำเนินงานช่วง 2H23 เนื่องจาก คาดว่ารายได้จะเติบโต HoH จากคำสั่งซื้ออาหารสัตว์เลี้ยง ที่จะทยอยกลับมา จากลูกค้าในสหรัฐ และยุโรป โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 23 เฉลี่ย 316 ลบ. -69%YoY กำไรช่วง 1H23 เท่ากับ 66 ลบ. คิดเป็น 20% ของประมาณการทั้งปี แต่เนื่องจากราคาที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง -45% YTD แนะนำ"เก็งกำไร"

 

หุ้นมีข่าว

(+) BCH (Bloomberg consensus 21.15 บาท) ส่งซิกไตรมาส 3 ผลงานสวย รับเข้าช่วงไฮซีซัน ดันผู้ใช้บริการพุ่ง แถมได้แรงหนุน ขึ้นค่าหัวประกันสังคมหนุน ปีนี้ยืนเป้ารายได้ไว้ราว 1.3 หมื่นล้านบาท อานิสงส์ฐานธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง แถมเดินหน้าการรักษาเต็มพิกัด เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SECURE (Bloomberg consensus - บาท) ส่งสัญญาณธุรกิจติดเครื่องวิ่งต่อ คาดรายได้ทะลุเป้าเกินพันล้านบาท โชว์ฝีมือไตรมาส 2/2566 กำไรฟู 69.77% ด้านบิ๊กบอส "นักรบ เนียมนามธรรม" ชี้ดีมานด์ไอที-ระบซีเคียวริตี้ล้น ใส่เกียร์ลุยโปรเจ็กต์ใหญ่ เปิดศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมดิจิทัล ขยายฐานองค์กรใหญ่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SABUY (Bloomberg consensus - บาท)ส่ง "สบาย โซลูชั่นส์ หรือ SBS" เตรียมเปิดให้บริการระบบศูนย์อาหารใน Lotus's จำนวน 200 สาขา เร็วๆ นี้ พร้อมนำร่องเปิดระบบจ่ายเงินแบบไม่ใช้แคชเชียร์ เป็นที่แรกใน Lotus's Eatery ที่ห้างสรรพสินค้า ทรูดิจิตอล พาร์ค วางเป้าหมายขยายจำนวนผู้ใช้ระบบศูนย์อาหารให้ได้กว่า 500 ศูนย์ ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SFLEX (Bloomberg consensus 5.50 บาท) มองไตรมาส 3/2566 ผลงานเติบโตต่อเนื่อง ลูกค้าเรียงคิวป้อนออเดอร์ใหม่ล้นมือ มั่นใจรายได้แตะ 1.8-1.85 พันล้านบาท ตามเป้า ปูพรมบุ๊กผลตอบแทนจากการร่วมทุนในเวียดนามหนุนโค้งสุดท้ายเต็มสูบ ชี้มาร์จิ้นปี 2566 ยืนเหนือกว่า 15.69% แน่ มองการบริหารจัดการต้นทุน ยังทำได้ดี แม้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ไม่รุนแรงและรวดเร็วเท่าปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)