วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเด็นเดิมจากวันก่อน เรื่องฟิทช์หั่นเครดิตสหรัฐฯ

ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศคือ ศาลรัฐธรรมนูญมีการเลื่อนชี้ขาดรับ-ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำให้มีการเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นี้ออกไป แรงขาย นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,529.01 จุด -21.27 จุด -1.37% มูลค่าการซื้อขาย 51,343 ลบ. ต่างชาติ -2,930.81 ลบ. TFEX -30,779 สัญญา ตราสารหนี้ -8,031.36 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.06 ดอลลาร์ +2.6% ปิดที่ 81.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัว หลังจากซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน และรัสเซียประกาศลดการส่งออกน้ำมัน
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค.
+/- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 6-3 ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ในการประชุมนโยบายการเงินวานนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 66.63 จุด -0.19% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดวัน โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้
- ดัชนี VIX ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.3 ในเดือนก.ค. จากระดับ 54.4 ในเดือนมิ.ย.บ่งชี้ภาวะชะลอตัว
 

 

- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก กำลังเรียกร้องให้เกษตรกรภายในประเทศเพาะปลูกข้าวให้น้อยลงเพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวทั่วโลก หลังจากที่อินเดียสั่งระงับการส่งออกข้าวเมื่อไม่นานมานี้
- สนค.ชี้ ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังมีแนวโน้มขยายตัวสูง หลังเศรษฐกิจ อุปสงค์การลงทุน กลับมาฟื้นตัว
- การเมืองมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นหลังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.ออกไปก่อน หลังศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนพิจารณารับคำร้องปมเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 หรือไม่ ออกไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.66

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน ส่งผลให้เกิดสูญญากาศทางการเมืองในระยะสั้น มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,520-1,535 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
• หุ้นที่ได้ประโยชน์อินเดียระงับส่งออกข้าว : PRG UVAN CPI VPO
• ยอดส่งออก มิ.ย. ที่ยังเติบโตได้ดี : KSL SAPPE HANA SAT

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

HMPRO (2Q66 อุณหภูมิสูงหนุนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น) 
Bloomberg consensus 17.00 บาท

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี

•รายงานรายได้ 2Q66 ที่ 18,903 ลบ. +9%YoY, +10%QoQ และกำไร 1,620 ลบ. +7%YoY, +1%QoQ สาเหตุมาจากช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวขึ้น 17,789 ล้านบาท +9%YoY, +3%QoQ ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 25.7% ใน 2Q65 เป็น 26.3% ใน 2Q66 เนื่องจากได้รับส่วนลดจากบริษัทคู่ค้าและเน้นขายสินค้าที่อัตรากำไรสูง ขณะที่กำไรสุทธิ 1H66 เท่ากับ 3,231 ล้านบาท +7%YoY

•ส่วนไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทขยายเมกาโฮมเพิ่มขึ้นอีก 3 สาขา ได้แก่ นครปฐม เชียงใหม่และบางแสน โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 3Q66 เป็นต้นไป ส่วนสาขาโลตัสบางแคปิดตัวลง 1 สาขา เพื่อเตรียมเปิดสาขาใหม่ช่วงไตรมาส 3 ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทมีโฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 24 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา รวมสาขาทั้งสิ้น 122 สาขา

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 2H66 เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนไทยกำลังเผชิญเอลนีโญ ตั้งแต่ช่วง 2Q66 จนถึง 2Q67 อาจทำให้ฝนทิ้งช่วงจนเกิดภัยแล้ง เหตุการณ์ดังกล่าวหนุนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 66 เท่ากับ 6,850 ลบ. +10%YoY คิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปี ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา -8%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 29 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 31 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) CBG (Bloomberg consensus 70.00 บาท) บิ๊ก CBG "เสถียร เสถียรธรรมะ" รับตั้งรัฐบาลช้ากระทบกำลังซื้อ เศรษฐกิจโลกไม่ดี ดอกเบี้ยสูงกด ปรับบริหารภายในรับมือ ลั่นพยายามตีแตกเป้ารายได้โต 20% ด้านร้าน CJ Express คงแผนเข้าตลาดหุ้น แต่เลือกช่วงเวลา ภาวะตลาด เร่งขยายสาขากว่า 250 แห่ง คลังสินค้าเสร็จต้นปี 2567 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg consensus 43.00 บาท) เตรียมเปิดโรงเรียน 2 แห่งใหม่ที่นนทบุรี-ระยอง เดือนสิงหาคม 2566 นี้ คาดรับนักเรียนเพิ่มรวมกว่า 300-400 คน มองทิศทางอุตสาหกรรมโรงเรียนนานาชาติยังเติบโตสูง มีผู้สนใจเข้าเรียนมากขึ้นในอนาคตทั้งชาวไทยและชาวจีน เตรียมเพิ่มห้องเรียนและสาขา ดันพอร์ตนักเรียนแตะ 8,000 คน ในระยะ 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) THANI (Bloomberg consensus 3.39 บาท) ปรับยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2566 ลงเหลือ 2.7-2.8 หมื่นล้านบาท หลังปัจจัยภายนอกยังมีผลกดดันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คาดไตรมาส 3/2566 ยอดสินเชื่อใหม่เฉลี่ย 2-2.3 พันล้านบาทต่อเดือน พร้อมคุมเข้า NPL ต่ำระดับ 3% คงเป้าพอร์ตคงค้าง 5.21 หมื่นล้านบาท มองดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นตามคาด เชื่อยังรับมือได้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JKN (Bloomberg consensus - บาท) ประกาศการสำเร็จกลุ่มธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หรือ MUO โชว์ Backlog 2,000 ล้านบาท จากรายรับ Hosting Fee จากค่า License ที่เรียกเก็บจากประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด จองคิวจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สมาแล้ว 5 ประเทศในระหว่างปี 2566-2570 พร้อมกำหนด 18 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันรอบชิงชนะเลิศการประกวด มิสยูนิเวิร์ส ครั้งที่ 72 ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์ (ที่มา ทันหุ้น)