วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ การเมืองในประเทศชัดเจนในสัปดาห์นี้

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ การเมืองในประเทศชัดเจนในสัปดาห์นี้

จับตาการเมืองในประเทศที่มีโอกาสนำไปสู่บทสรุปของรัฐบาลใหม่ แม้กระแสข่าวการเมืองจะมีโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดหลายๆ อย่างตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงภาพใหญ่ของความน่าจะเป็น ที่รัฐบาลใหม่น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย

ขณะพรรคก้าวไกลน่าจะต้องเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล อาจมีหรือไม่มีพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ขึ้นกับข้อตกลงและรูปแบบที่เหมาะสม ทั้งนี้สถานการณ์ที่ดีที่สุดที่จะทำให้มีการต่อต้านต่ำคือพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ หลุดเป็นฝ่ายค้านร่วมกับก้าวไกล ซึ่งถือเป็นการยุติสืบทอดอำนาจของเผด็จการ 

มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกลุ่มหุ้นอิงปัจจัยภายนอก แต่เน้นซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาน้ำมันดิบ WTI ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล สู่ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบย้อนหลัง 12 เดือน ให้ผลตอบแทนเป็นลบถึง 10 เดือน ดังนั้นเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของราคาหลังงานและน้ำมันดิบในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 และมองเป็นความเสี่ยงเชิงบวก (upside risk) ต่อการปรับประมาณการกำไรบจ.ของ SET Index โดยกลุ่มพลังงานที่เรามองบวก ได้แก่ พลังงานต้นน้ำ และโรงกลั่น ซึ่งผลประกอบการครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับดีขึ้น ขณะที่ปิโตรเคมี ครึ่งปีหลังเป็นสถานการณ์ที่แย่น้อยลง โดยจะยังถูกกดดันจากภาวะอุปทานล้นเกิน (over supply) ไปจนต้นปี 2567 เป็นอย่างน้อย 

 

 

ข่าวจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นปัจจัยบวกหนุนจิตวิทยาหุ้นเอเชีย บริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ 3/4 รายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากนี้ปัจจัยหนุนมุมมองการลงทุนอาจต้องพึ่งประเด็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และค่อยระวังไม่ให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น เปลี่ยนแปลงขอบเขตของการเคลื่อนไหวของเส้นโค้งผลตอบแทน (Yield Curve Control) เร็วจนเกินไป // สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในช่วงที่ผ่านมาจะออกมาในลักษณะช่วยจำกัดขอบเขตของวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มสภาพคล่องในระบบให้เพียงพอ ขณะที่ในวันจันทร์ (31 ก.ค.) เวลา 15.00 น. มีรายงานว่ากระทรวงพาณิชย์จีนจะมีการแถลงถึงมาตรการใหม่ที่จะใช้ในการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้น จะสร้างแรงส่งต่อเศรษฐกิจเอเชีย นอกจากนี้นักลงทุนอาจเก็งกำไรหุ้นจีน ผ่าน DR ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย อาทิ BABA80, BYDCOM80, PINGAN80, NETEASE80, CN01, CNTECH01 เป็นต้น 

ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศลงทุนช่วงสั้นเป็นบวกมากขึ้น กลุ่มที่น่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่เริ่มถูกหมุนมาเก็งกำไร 2) กลุ่มท่องเที่ยวที่ผลประกอบการจะออกมาดี 3) กลุ่มอิงภายนอกที่ดีต่อในครึ่งหลังมีแค่พลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น (แต่ระยะสั้นอาจต้องระวังผลประกอบการ) ขณะที่ปิโตรเคมีจะแย่ยาว ทำให้เหมาะแค่การเก็งกำไร 

หุ้นแนะนำ: SPA*, BABA80*, ASW*, RATCH*

แนวรับ: 1,525 / แนวต้าน : 1,558-1,570 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ไทย พบสัญญาณเริ่มขยับแรง – โดยดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 129.7 เพิ่มขึ้น 1.9% yoy และเพิ่มขึ้น 1.1% qoq ส่วนดัชนีราคาภาพรวมห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลอยู่ที่ 155.1 จุด เพิ่มขึ้น 2.2% yoy และเพิ่มขึ้น 0.3% qoq ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาติดต่อกัน 2 ไตรมาส

ANAN เล็งเสนอทำทางออกใหม่ - กทม. รฟม. และบริษัท อาจร่วมกันซื้อที่ดินเพื่อเป็นทางออกให้กับโครงการแอชตัน อโศก ทั้งนี้ มีการตั้งสำรองความเสียหายตามสัดส่วนการถือหุ้นที่บริษัทร่วมลงทุนในโครงการแอชตัน อโศก ในส่วนของห้องชุดพักอาศัยที่ยังไม่ได้มีการขายออกไป ซึ่งมีมูลค่าที่จะต้องตั้งสำรองฯเข้ามาในงบการเงินของ ANAN ราว 250-300 ล้านบาท โดยขายไปแล้ว 87% จากมูลค่าโครงการ 6.48 พันล้านบาท

ไทม์ไลน์การเมือง – วันที่ 2-3 ส.ค. ประชุม 8 พรรค / 3 ส.ค. ประชุมวิป 3 ฝ่าย / 4 ส.ค. ประชุมสภาร่วม เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 รอบที่ 3

 

ประเด็นติดตาม: 31 ก.ค. – EU CPI, GD/ 1 ส.ค. – US ISM Manufacturing PMI, JOLTs Job Openings/ 2 ส.ค. – MPC Meeting, US ADP Nonfarm Employment Change

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)