CBG - พลิกฟื้นจากด้านต้นทุนเป็นหลัก (9 มิ.ย. 66)

CBG - พลิกฟื้นจากด้านต้นทุนเป็นหลัก (9 มิ.ย. 66)

เริ่มศึกษาหุ้น CBG ด้วยคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 82 บาท เราเชื่อว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q23 (264 ล้านบาท) ถูกกระทบอย่างหนักจากทั้งรายได้ที่ลดลงเพราะสงครามราคาในตลาด energy drink ของไทย

และการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดต่างประเทศ รวมถึงราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูง (โดยเฉพาะอลูมิเนียมที่ใช้ผลิตกระป๋อง) ทั้งนี้ เนื่องจากยอดขายมีแนวโน้มเติบโตได้ในระดับปานกลาง qoq จากทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงราคาอลูมิเนียมที่ลดลง (คิดเป็นประมาณ 20% ของต้นทุนรวม) เราจึงมองว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ CBG มีแนวโน้มจะดีขึ้นตลอดปี 2023

 

คาดว่ายอดขายปีนี้จะลดลง 4.2%

ในขณะที่เราคาดว่ายอดขายในประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5.3% (โดยส่วนใหญ่จะมาจากการจัดจำหน่ายสินค้าบุคคลที่สามซึ่งมี margin ต่ำ) เราคาดว่ายอดขายในตลาดต่างประเทศในปีนี้จะลดลง 8.6% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายในกลุ่ม CLMV และจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของ CBG อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อว่ายอดขายได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q23 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเครื่องดื่ม energy drink ในประเทศไทย เพราะยอดขายของ CBG จะได้อานิสงส์จากการที่กระทิงแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลัก ขึ้นราคาขายเป็น 12 บาทในเดือนมีนาคม 2023 

 

 

 

 

 

อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ลดลงเพราะยอดขาย energy drink ซึ่งอัตรากำไรสูงลดลง

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2023F จะลดลง 1ppt yoy (เหลือ 28.3%) เนื่องจาก energy drink ซึ่ง margin สูง (อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 37.4% ซึ่งสูงกว่าสินค้าโดยรวมที่ 28.3%) มียอดขายลดลงทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ แต่ถึงอย่างนั้น เรายังเชื่อว่าแนวโน้มการเติบโตของยอดขายที่ระดับปานกลาง และราคาอลูมิเนียมที่ลดลงน่าจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นในปี 2024F

 

ราคาเป้าหมายใช้ DCF ความเสี่ยงหลักอยู่ที่ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ

เราใช้ DCF ในการประเมินราคาเป้าหมาย โดยใช้  WACC ที่ 6% และ terminal growth ที่ 2% ทั้งนี้ ราคาหุ้น CBG ในปัจจุบันคิดเป็น P/E ปี  2023F  ที่ 31.8x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 47.3x โดยความเสี่ยงหลักจะมาจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และแนวโน้มที่ไม่แน่นอนของตลาดต่างประเทศ