KTX Zoom (8 มิถุนายน 2566)

KTX Zoom (8 มิถุนายน 2566)

EU มีภาคบริการเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ คาดหุ้นกลุ่มอิงท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก

KTX Zoom (8 มิถุนายน 2566)

Today’s dominant ideas

คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways แนวรับ 1,521/1,517 จุด แนวต้าน 1,541/1,545 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,521-1,546 จุด เพื่อรอเลือกทิศทางว่า ดัชนีฯ จะเป็นทิศทางขาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,558/1,572 จุด (EMA 50/75 วัน) หรืออ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับ 1,500 จุด

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ อยู่ที่ รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจ 1Q23 ครั้งสุดท้ายของ EU ซึ่ง Consensus คาดว่าจะขยายตัว +0% QoQ เท่ากับ 4Q22 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อนหน้า +0.1% QoQ ส่วนแนวโน้มการเติบโตในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดทรงตัว โดย Bloomberg Consensus คาด 2Q23 +0.1% QoQ, 3Q23 +0.2% QoQ และ 4Q23 +0.2% QoQ และทั้งปี 2023E เติบโต 0.6% YoY Vs 3.5% YoY ในปี 2022 เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับลดลง ต้นทุนสินค้าที่ปรับสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบจากจากการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดของ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.5% ในปีนี้ เป็น 4.25% Vs คาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ที่ 5.5% (ล่าสุดเดือน พ.ค. ลดลงมาที่ 6.1% YoY (Figure 2) อย่างไรก็ดี เราคาดว่าหุ้นกลุ่มอิงท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก เห็นได้จากตัวเลขภาคบริการของอียูที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง (สูงกว่าระดับ 50 จุด (Figure 1)) และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจอียูในปัจจุบัน ผนวกกับการเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของฤดูท่องเที่ยวของยุโรป ตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป ส่วนประเด็นเก็งกำไร จับตาหุ้นอิง China Play ซึ่งเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวระยะสั้น รับความเป็นไปได้ที่ทางการจีน อาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในเร็ว ๆ นี้

 

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ MINT SAPPE คาดว่าจะเป็นบริษัทฯ ที่รายงานกำไรเติบโตดีใน 2Q23E และมีโมเมนตัมบวก จากการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของยุโรป และ TKN คาดว่ากำไรเติบโตดีใน 2Q23E และมีผลบวกเพิ่มเติม หากจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

 

Strategic daily picks

MINT   ปิด 34.00 บาท/แนวรับ 32.00 บาท แนวต้าน 36.25 บาท

Consensus ประเมินราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 43.50 บาท อิง EV/EBITDA 10 เท่า และคาดแนวโน้ม 2Q23 จะฟื้นตัวเด่น QoQ หนุนจากโรงแรมในยุโรป หรือ NHHOTEL ซึ่งเป็นรายได้หลักของกลุ่มเข้าสู่ high season และเติบโต YoY แม้จะเจอฐานสูงจากปีก่อน แต่อิงตัวเลขการจองเข้าพักล่วงหน้าที่แข็งแกร่ง ส่วนประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 2023 คาดอยู่ที่ 1.35 แสนล้านบาท และ 6.44 พันล้านบาท ตามลำดับ ส่วนผลการดำเนินธุรกิจ 3 ปี (ปี 2023-25) บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากการดำเนินงานเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 12-15% และวางงบลงทุนไว้ 1.0-1.3 หมื่นล้านบาท/ปี โดยมีแผนเปิดโรงแรม 71 แห่ง รวม 13,207 ห้อง

 

SAPPE    ปิด 88.50 บาท/แนวรับ 85.00 บาท แนวต้าน 93.00 บาท

KTX คาด SAPPE ยังมีแนวโน้มการเติบโตของกำไร ราว 70-80% YoY ใน 2Q-3Q23E (แต่การเติบโตระดับ QoQ ใน 2 ไตรมาสหน้านี้ไม่น่าจะเด่นเท่า 1Q23 แล้ว) ก่อนที่กำไรจะเข้าสู่ low seasonal ใน 4Q23E (แต่ยังคงเติบโต YoY) ทั้งนี้ KTX ปรับประมาณการกำไรปี 2023-25E เพิ่มจากเดิม 39%-48% เป็น 1.1 พันล้านบาท ในปี 2023E (+70% YoY), 1.3 พันล้านบาท ในปี 2024E (+18% YoY) และ 1.5 พันล้านบาท ในปี 2025E (+18% YoY) ด้วยการปรับเพิ่มยอดขายราว 8-13% ในปี 2023-25E และอัตรากำไรขั้นต้น 43.2%/43%/42.7% พร้อมประเมินราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 76.75 บาท ทั้งนี้ ล่าสุด SAPPE ได้เป็นหนึ่งในบริษัทฯที่ได้ถูกเพิ่มคำนวณในดัชนี FTSE SET Mid-Cap Index มีผล 19 มิย. 23

 

 

TKN    ปิด 11.80 บาท/แนวรับ 11.20 บาท แนวต้าน 12.50 บาท

TKN  เผยทิศทางผลการดำเนินงาน 2Q23 จะดีขึ้น YoY หลังจากมีการเปิดประเทศ และนักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่ายอดขายปี 2023 จะเติบโต 15% จากการดำเนินกลยุทธ์ GO Firm มุ่งปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น และ GO Broad การขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น ทำให้กำลังการผลิตกลับมาดีขึ้น โดยในปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ 38% และต่างประเทศ 62% (China USA ASEAN) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 5.04 พันล้านบาท และ 611 ล้านบาท ตามลำดับ พร้อมทั้งประเมินราคาเป้าหมายที่ 12.35 บาท

KTX Zoom (8 มิถุนายน 2566)