BPP ผลประกอบการ 1Q66: เป็นไปตามคาด

BPP ผลประกอบการ 1Q66: เป็นไปตามคาด

ผลประกอบการ 1Q66 – กำไรสุทธิเป็นไปตามคาด แต่กำไรจากธุรกิจหลักดีเกินคาด 15%

กำไรสุทธิของ BPP ใน1Q66 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (-28% YoY, พลิกฟื้น QoQ) เนื่องจากมีการบันทึกกำไร 1.3 พันล้านบาท จากการปรับมูลค่าของ Durapower และกำไรอีก 114 ล้านบาทจากตราสารอนุพันธ์ แม้จะไม่มีกำไรจากการขาย Sunseap เหมือน 1Q65 และไม่มีผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ของ TempleI เหมือนใน 4Q65 อย่างไรก็ตาม กำไรหลักอยู่ที่ 803 ล้านบาท (+240% YoY, +64% QoQ) คิดเป็น 26%ของประมาณการกำไรปี 2566F ของเรา ซึ่งดีกว่าเราคาด เนื่องจาก BLCP แข็งแกร่งเกินคาด

 

โครงการส่วนใหญ่ฟื้นตัวดีขึ้น

ใน 1Q66 สภาพอากาศได้รับผลกระทบจาก La Niña น้อยลง ทำให้ผลการดำเนินงานลดลงในโครงการ CHPs (อุปสงค์ลดลง) และ Temple I (อัตราค่าไฟฟ้าลดลง) ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY มาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโครงการหงสา (ไม่มีการปิดโรงไฟฟ้าตามแผน), CHPs (ปริมาณยอดขายไฟฟ้าและอัตราค่าไฟฟ้าสูงขึ้น), BLCP (มีการปิดซ่อมบำรุงน้อยลง) และ SLG (อัตราการเดินเครื่องดีขึ้น และต้นทุนถ่านหินลดลง) แม้ว่าผลการดำเนินงานของ Temple I (อัตราค่าไฟลดลง) และ Nakoso (มีการปิดซ่อมบำรุงรอบใหญ่) จะอ่อนแอลงเพราะค่าใช้จ่าย SG&A และต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ถึงแม้ผลการดำเนินงานของ BLCP และ Temple I จะแย่ลง QoQ แต่ผลประกอบการของ BPP ใน 1Q66 ดีขึ้น QoQเนื่องจาก i) ผลการดำเนินงานของ CHP แข็งแกร่งขึ้นตามฤดูกาล ii) ผลการดำเนินงานของโครงการหงสาแข็งแกร่งขึ้น (ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงเหมือนกับใน 4Q65) และ iii) SG&A กลับมาอยู่ระดับปกติ นอกจากนี้ SLG ส่งผลกำไรมาที่บริษัทเพียง 20 ล้านบาท (จาก 170 ล้านบาทใน 4Q65) เนื่องจากอุปสงค์จากกลุ่มที่พักอาศัยลดลง และการเปิดดำเนินการแบบ on-and-off ของผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมจากผลกระทบของ COVID ในขณะที่ผลการดำเนินงานหลักของ Banpu NEXT ดีขึ้นเพราะ solar ดีขึ้นตามการแผ่รังสีความร้อนที่สูงขึ้น

 

 

 

แนวโน้มในปี 2566

เรายังคงประมาณการกำไรของเรา โดยคาดว่ากำไรหลักในปี 2566F จะโต 10% YoY จากต้นทุนถ่านหินที่ลดลง และปริมาณยอดขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำโดยประเทศจีน และน่าจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนขึ้นใน 2H66F ทั้งนี้ CHPs กำลังเจรจากับทางการเพื่อขอทำสัญญาถ่านหินระยะยาวเหมือนกับ SLG ที่ได้ส่วนลด 30-40% จากราคาในปัจจุบัน นอกจากนี้ ผลประกอบการของ Temple I อาจจะแผ่วลงจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และราคา LNG ที่ร่วงแรง ในขณะเดียวกัน Nakoso (73MWe) ก็อยู่ระหว่างการทำ overhaul รอบใหญ่ตลอดปีนี้ เราคาดว่ากำไรใน 2Q66F อาจจะเพิ่มขึ้น
QoQ เพราะเป็นช่วง high season ของ Temple 1 และ BLCP กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 14.60 บาท โดยราคาหุ้นเหลือ upside จำกัดเทียบกับราคาเป้าหมายของเรา นอกจากนี้ กระแส ESG ในปัจจุบันน่าจะทำให้นักลงทุนโยกการลงทุนออกจากหุ้น BPP ในระยะยาว เราคาดว่ากำไรของ BPP จะเติบโตอย่างเชื่องช้า เว้นแต่จะเกิดมีดีลใหม่ที่มีขนาดใหญ่

 

Risks

การปิดโรงงานนอกแผน, ปัญหา cost overrun, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย