TTB - เน้นเติบโตอย่างมีคุณภาพ (24 เม.ย. 66)

TTB - เน้นเติบโตอย่างมีคุณภาพ (24 เม.ย. 66)

ความเสี่ยงด้านลบและบวกยังค่อนข้างสมดุลกัน โดยมองมี downside ของสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อ แต่มี upside จากสัดส่วน C/I ถึงแม้ว่ากำไรของ TTB จะไม่ได้โตแรงที่สุดในกลุ่ม แต่ผลการดำเนินงานก็น่าจะดีกว่าธนาคารอื่นที่เน้นด้านสินเชื่อ HP เหมือนกัน

เราคงคำแนะนำ ซื้อ TTB ประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.65 บาท

                                                             

สินเชื่อมี Downside จากการแข่งขันที่เข้มข้น และอัตราดอกเบี้ยที่เพื่มขึ้น

ผู้บริหารยังคงเป้าหมายทางการเงินทุกตัวในปีนี้เอาไว้ เพราะผลประกอบการ 1Q23 ค่อนข้างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ โดยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกเป็นเพราะ ECL ลดลง และ NIM เพิ่มขึ้น โดย ECL ยังคงทะยอยเดินหน้ากลับเข้าสู่ระดับปกติหลังคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น ตามทิศทางธุรกิจที่เน้นความระมัดระวัง ผู้บริหารเชื่อว่าการดำเนินกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพเป็นแนวทางที่เหมาะสมเพราะเห็นความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และ การแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะการแข่งขันที่รุนแรงในกลุ่มสินเชื่อ HP รถใหม่ ซึ่งทำให้ yield สินเชื่อตกลงไปอยู่ในระดับที่ไม่คุ้มค่าในเชิง risk-reward ในขณะเดียวกัน อุปสงค์ของสินเชื่อธุรกิจก็ดูชะลอตัวหลังบริษัทหันไปออกพันบัตรแทนการกู้แบงก์ เรามองว่ากลยุทธ์การเติบโตอย่างมีคุณภาพจะทำให้งบดุลของ TTB แข็งแกร่ง เพราะคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ และ credit cost จะยังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้เป้าสินเชื่อปีนี้มี downside

 

 

 

 

เน้นที่ประสิทธิภาพมากกว่าจะมุ่งโตอย่างเดียว

ถึงแม้ว่าแนวโน้มการขยายสินเชื่อจะดูท้าทาย แต่เรามองว่า TTB น่าจะได้อานิสงส์จาก synergy หลังควบรวมธนาคารในเชิงบวกจากการประหยัดต้นทุน และ NIM ที่ดีขึ้น ทั้งนี้เนื่องจาก TTB มีการปล่อยกู้สินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยคงที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อ HP ดังนั้นธนาคารจะได้ผลกระทบสุทธิเป็นลบจากวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม NIM ของ TTB กลับสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากการใช้กลยุทธ์ในการปรับงบดุลให้เหมาะสมเช่นการปรับน้ำหนักพอร์ตสินเชื่อจากกลุ่ม yield ต่ำไปย้ายไปปล่อยกลุ่ม yield สูง และแผนการล็อกเงินทุนจากฐานเงินฝากล่วงหน้าเพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัดส่วน C/I ใน 1Q23 ยังต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 43.3% (ไม่นับช่วงที่สัดส่วน C/I ต่ำผิดปกติใน 3Q18 เมื่อมีการบันทึกกำไรที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากดีล Eastspring) เพราะสามารถประหยัดต้นทุนได้จาก synergy หลังควบรวม และ platform ดิจิทัล

 

คงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มการเติบโตที่เป็นบวก และ upside ของราคาหุ้น

เรามองว่าสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อของเรามี downside แต่สัดส่วน C/I มี upside ดังนั้น ผลกระทบจากความเสี่ยงโดยรวมต่อประมาณการของเราจึงยังมามากอีกทั้งความเสี่ยงทั้งสองด้านยังค่อนข้างสมดุลกัน ถึงแม้ว่ากำไรของ TTB ในปีนี้จะไม่ได้โตแรงที่สุดในกลุ่ม แต่ผลการดำเนินงานดูเหนือกว่าธนาคารอื่น ๆ ที่พอร์ตสินเชื่อคล้าย ๆ กัน (มีสินเชื่อ HP ในพอร์ตสูง) เราคาดว่ากำไรของ TTB จะโตได้ในระดับปานกลางที่ 15% ทั้งนี้ จากแนวโน้มการเติบโตของกำไร และ upside เราคงคำแนะนำซื้อ TTB ประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.65 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.7x