KTX Zoom (12 เมษายน 2566)

KTX Zoom (12 เมษายน 2566)

ถือหุ้นกลุ่มปลอดภัย ลดความไม่แน่นอนของตัวเลขเงินเฟ้อและผลกำไร 1Q23E กลุ่มธนาคารสหรัฐฯ

KTX Zoom (12 เมษายน 2566)

Today’s dominant ideas

คาด SET Index อ่อนตัว แนวต้าน 1,605/1,610 จุด แนวรับ 1,588/1,580 จุด ทางเทคนิค ระยะสั้นอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแนวโน้มจากเชิงลบ เป็น เชิงบวก (Uptrend) ภายใต้เงื่อนไขต้องยืนเหนือ 1,600 จุด ให้ได้ในเร็ว ๆ นี้ มิฉะนั้น มีโอกาสอ่อนตัวลงมาต่ำกว่า 1,569 จุด ส่วนผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ มีผลต่อดัชนีฯ -0.42 จุด (TTB ปันผล 0.053 บาท/หุ้น)

ประเด็นวันนี้ จับตา สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ซึ่งตลาดปรับลดคาดการณ์ลงมาที่ 5.1% YoY (Vs 6.0% YoY ในเดือน ก.พ.) (รูปขวา) จากปัจจัยฐานสูง (high base) ในปีก่อน ประกอบกับความอ่อนแอของการจ้างงานสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น หลัง PMI ภาคอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ภาคบริการ แม้ยังไม่อยู่ในโซนหดตัว แต่ก็ชะลอตัวลงมาที่ 51.2 (Vs เดือน ก.พ. ที่ 55.1) กดดันให้การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค. ชะลอตัวลงมาที่ 2.36 แสนตำแหน่ง (Vs 3.26 แสนตำแหน่ง ในเดือน ก.พ.) และราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นแรงผลักดันเงินเฟ้อฝั่งต้นทุนในเดือน มี.ค. ชะลอตัวลงมาที่ USD75.1 (Vs เดือน ก.พ. USD77.1) ทำให้ตลาดปรับลดคาดการณ์อัตราเร่งรายเดือนของเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. ลงมาที่ +0.2% MoM (Vs 0.4% MoM ในเดือน ก.พ.) อย่างไรก็ตาม หากเงินเฟ้อออกมาตามคาดที่ 5.1% YoY จะทำให้อัตราดอกเบี้ยแท้จริง (Real rate) ลดช่องว่างการติดลบลงเหลือ -0.1% (Vs -1.0% MoM) ประกอบกับอัตราเร่งรายเดือนของเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เริ่มปรับคาดการณ์ลงมาในระดับ 0.2% MoM ต่ำกว่าระดับ Base case ของเรา (รูปซ้าย) สะท้อนว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มอ่อนกำลังลงกว่าที่เราคาดไว้ เป็นปัจจัยหนุนมุมมองเราว่าเฟดมีโอกาสการคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน พ.ค. (Vs Fed Watch Tool คาด +25bps.)

 

 

กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ แนะนำ ถือหุ้นกลุ่มปลอดภัย ADVANC GULF BEM (หุ้นบลูชิพ รายได้แน่นอน ปันผลสม่ำเสมอ) ภายใต้ความไม่แน่นอนของทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นโลก อันเนื่องมาจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มี.ค. และรายงาน FOMC Minute ที่อาจทำให้เฟดยังคงมีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยฯ ในการประชุมวันที่ 3 พ.ค. รวมถึงการเริ่มประกาศงบการเงิน 1Q23 บจ.กลุ่มการเงินสหรัฐฯ อาทิ JPM Citi ฯลฯ ซึ่งจะเริ่มต้นวันศุกร์นี้เป็นวันแรก

 

Strategic daily picks

ADVANC  ปิด 213 บาท/แนวรับ 206 บาท แนวต้าน 218 บาท

Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 230 บาท อิง DCF (WACC 8.7%, Terminal growth 2%) จุดเด่น คือ การเริ่มเข้าสู่การเติบโต รอบใหม่ หลังสงครามราคาเริ่มคลี่คลาย และปันผลต่อปีเฉลี่ย 4% โดยคาด 1Q23E รายงานกำไร 6.5 พันล้านบาท +3% YoY เป็นผลจาก 1. สงครามราคาที่ลดลงในธุรกิจมือถือและเน็ตบ้าน ทำให้รายได้ธุรกิจเดิมเติบโตดี 9% 2. การควบคุมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ดีขึ้น ส่วนทั้งปี 2023E คาดกำไรสุทธิเติบโต 10% เป็น 2.7 หมื่นล้านบาท และมี Upside เพิ่ม จากแผนจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าซื้อ JASIF อาจมีส่วนลดค่าเช่าเพิ่มขึ้น

 

GULF  ปิด 54.25 บาท/แนวรับ 52.75 บาท แนวต้าน 56.25 บาท

Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 62.25 บาท จุดเด่น คือ เป็นหุ้นเติบโตสูงในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า ทั้งปี 2023 ประมาณการกำไรที่ 1.75 หมื่นล้านบาท จาก 1) การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ พีดี (GPD) หน่วยผลิตที่ 1 และ 2 กำลังการผลิตรวม 1,325MW และ 2) บันทึกส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น 49% ในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ในสหรัฐฯ ขนาด 1,200MW, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Mekong ที่เวียดนาม ขนาด 120MW และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ที่โอมาน จะเปิดเพิ่มอีก 130MW ขณะที่ Consensus คาดกำไร 1Q23 จะชะลอลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลของลม โครงการ BKR2 และ GGC แต่คาดโต YoY จาก GSRC หน่วยที่ 4 เพิ่งเริ่ม COD ใน 4Q22 และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Jackson บางส่วน

 

BEM  ปิด 8.90 บาท/แนวรับ 8.70 บาท แนวต้าน 9.45 บาท

Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 11.23 บาท ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2023E ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 15% จาก 1.48 หมื่นล้านบาท ในปี 2022 และคาดผลกำไรปี 2023E ที่ 2.4 พันล้านบาท ตามการฟื้นตัวของการเดินทางผ่านทางด่วน 1.13 ล้านเที่ยว/วัน (คิดเป็น 90%ของช่วงก่อน COVID-19) และจำนวนผู้โดยสารรถไฟสายสีน้าเงิน 3.8 แสนเที่ยวคน/วัน (คิดเป็น 118% ของช่วงก่อน COVID-19) +103% YoY, +9% QoQ  ปัจจัยบวก คือ ผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีมูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้นอีก 1.35 บาท หากมีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

 

KTX Zoom (12 เมษายน 2566)