ITC - การเติบโตในระยะยาวยังคงอยู่

ITC - การเติบโตในระยะยาวยังคงอยู่

ITC ประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food Manufacturer) ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ในแง่ของรายได้ต่อปี

อีกทั้งมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้มายาวนานมากกว่า 40 ปี ในปี 2565 บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากอาหารแมวที่ 73% อาหารสุนัขที่ 12% และขนมสำหรับแมวและสุนัขที่ 15% โดยภาพรวม ITC มีลูกค้ามากกว่า 435 รายในกว่า 45 ประเทศทั่วโลกและยอดขายมาจากการส่งออกเกือบทั้งหมด นอกจากที่ ITC มีความชำนาญเฉพาะทางด้านผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเกรดพรีเมียม แล้วสินค้ายังมีความหลากหลาย ทั้งในด้านรูปแบบ ขนาด บรรจุภัณฑ์และประเภทสินค้าตามอายุของสัตว์เลี้ยง

 

มีความได้เปรียบคู่แข่งทางโครงสร้างต้นทุนที่ได้แรงหนุนจากเครือข่ายของ TU

ITC ได้เปรียบคู่แข่งในด้านความสามารถการซื้อวัตถุดิบทูน่าเป็นจำนวนมาก (bulk orders) ร่วมกับบริษัทไทยยูเนียนกรุ๊ป (TU.BK/TU.TB)* ซึ่งเป็นผู้ผลิตทูน่าบรรจุกระป๋องรายใหญ่ที่สุดของโลก และยังซื้อบรรจุภัณฑ์บางส่วนได้จากบริษัทในเครือของ TU ด้วย ทั้งนี้ การมีทำเลที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย (ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของผู้ผลิตไก่ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก) ทำให้ ITC มีแหล่งวัตถุดิบ (ไก่) ที่เพียงพอด้วยราคาที่แข่งขันได้ นอกจากนั้นบริษัทยังได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีจากบีโอไอ รวมทั้งมีความได้เปรียบด้านอัตราค่าแรงงานที่ต่ำกว่าคู่แข่งทั้งจากประเทศสหรัฐฯ และยุโรป

 

 

 

มุ่งเน้นนวตกรรมเพื่อทันต่อแนวโน้มตลาด

บริษัทให้ความสำคัญในการปรับตัวเพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงใหม่ ขณะที่ ITC วางกลยุทธ์ที่จะเป็นผู้ร่วมคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว (one-stop service) ให้กับลูกค้า ให้ความสำคัญมากกับการวิจัยและพัฒนา โดยได้สร้างศูนย์วิจัย Cattery เพื่อทดสอบความอยากอาหารของแมว เพื่อให้การพัฒนาสินค้าที่ดีขึ้น ปัจจุบัน ITC จดสิทธิบัตร 11 ลิขสิทธิ์และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า 109 รายการ

 

การปรับลดสินค้าคงคลังของลูกค้าเป็นเพียงผลกระทบด้านลบในระยะสั้น

บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังขึ้นอย่างมากในปี 2565 เนื่องจากเกิดปัญหาด้านการขนส่งในช่วง COVID-19 แต่ปัญหาดังกล่าวได้คลี่คลายไปแล้ว ใน 1Q66 จึงจะเห็นผลลบต่ออุปสงค์ที่อ่อนตัวลงของลูกค้า เราคาด ITC จะประกาศผลกำไรที่อ่อนแอที่ 444 ล้านบาท (-52% YoY และ -34%QoQ) อย่างไรก็ตาม เราคาดสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นใน 2Q66F และคาดกำไรสุทธิปี 2566F ที่ 4.40 พันล้านบาท (-2% YoY) ทั้งนี้ กำไรสุทธิจะเติบโต 22% ใน 2567F เป็น 5.36 พันล้านบาทหนุนจากมีสินค้าใหม่หลากหลายและการขยายสู่ตลาดใหม่ ๆ ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดจะสูงขึ้น เพราะ
product mix และการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

Valuation & action

เราเริ่มต้นศึกษาหุ้น ITC ด้วยคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 29.30 บาท อิงจาก PER ที่ 20x (เท่ากับ PER เป้าหมายของบริษัทในประเทศที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกัน)

 

Risks

ความผันผวนของต้นทุนอาหารสัตว์ อัตราแลกเปลี่ยนและภาวะตลาดแข่งขันสูง