BCPG ลงทุนเพิ่มในสหรัฐฯ (4 เมษายน 2566)

BCPG ลงทุนเพิ่มในสหรัฐฯ (4 เมษายน 2566)

เข้าไปลงทุนเพิ่มอีกสองโครงการในสหรัฐ – Liberty และ Patriot (1,705MW – 426MWe)

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. BCPG ได้ทำข้อตกลงเข้าซื้อหุ้น 25% ของโรงไฟฟ้าก๊าซ combined cycle 2 แห่งในรัฐ Pennsylvania ที่ราคา 260 ล้านดอลลาร์ฯ (8.92 พันลบ.) โดยคาดว่าจปิดดีลได้ใน 3Q66 ซึ่งช่วงแรกบริษัทจะใช้เงินสดในมือ จากนั้นจะพิจารณาแหล่งเงินกู้อื่นเพื่อเพิ่ม EIRR และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน US$/THB ทั้งนี้ โครงการที่เข้าไปซื้อประกอบด้วย Hamilton Liberty LLC (Liberty) (848MW – COD เดือน ก.ค. 2559) และ Hamilton Patriot LLC (Patriot) (857MW – COD เดือน ก.ค. 2559) ซึ่งทั้งสองโครงการมีกำไรสุทธิ 477 ลบ. (กำไรหลัก 400 ลบ.) ในปี 2563 และขาดทุนสุทธิ 704 ลบ. (กำไรหลัก 1.3 พันลบ.) ในปี 2564 เพราะมีผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากตราสารอนุพันธ์ หลังดีลนี้โรงไฟฟ้าก๊าซจะคิดเป็น 34% ของพอร์ต BCPG ซึ่งจะลบภาพความเป็นบริษัท pure-green company ในอนาคตออกไป

 

เร่งสร้างการเติบโต มากกว่าจะเน้นความเป็น Green company

เรามองว่าบริษัทมีเหตุผลสี่ข้อในการเข้าลงทุน ข้อแรก คือจะทำให้กำลังการผลิต BCPG เพิ่ม 426MWe หรือ 33.8% เป็น 1,686Mwe ข้อที่สอง คือ Liberty และ Patriot มี heat rate อยู่ที่ 6,700BTU/kWh ซึ่งเป็นระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับคู่แข่งเนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยและอายุโรงไฟฟ้าไม่มาก ข้อที่สามต้นทุนเข้าซื้อที่ US$0.61/MW ต่ำกว่าคู่แข่งในกลุ่มฯซึ่งอยู่ในช่วง US$0.7-0.8/MW และต่ำกว่าสองดีลก่อนหน้านี้ของ BCPG ที่ US$0.76/MW และสุดท้ายคือโครงการทั้งสองจะช่วยอุด adder gap ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนกำลังรออยู่ ระยะต่อไป BCPG คาดว่าจะมีดีลอื่น ๆอีกในอนาคตโดยจะอาศัยการก่อหนี้เพิ่ม

 

 

 

ผลกระทบทางการเงิน

เราประเมินแบบอนุรักษ์นิยมว่าส่วนแบ่งกำไรหลังหักต้นทุนดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 250-300 ลบ.ต่อไป (ซึ่งจะทำให้กำไรหลักปี 2567F มี upside อีก ~15-18%) อิงจาก EIRR ที่ 9-10%, CF=85%, D/E 1:1 โดยมียอดหนี้ 4.5 พันลบ. ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย 3.5% เราคิดว่า BCPG อาจจะต้องก่อหนี้เพิ่มบ้างเพราะมีดีลใหญ่สามดีลใน 2566YTD ซึ่งจะใช้งบลงทุน 2.2 หมื่นลบ. (เงินสด 4Q65 มี 2.0 หมื่นลบ.) ประกอบด้วย Oil terminal (9 พันลบ.) + สองดีลแรกในสหรัฐ (4 พันลบ.) + สองดีลหลังในสหรัฐ (9 พันลบ.)

 

Valuation & Action

เรามองบวกกับดีลนี้ของ BCPG และจะปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้นเพื่อสะท้อน 3 ดีลที่ประกาศออกมาใน 2566YTD ซึ่งได้แก่ Oil terminal (150-200 ลบ./ปี) + สองดีลแรกในสหรัฐ (Carrol & South Field) (200-250 ลบ./ปี) + สองดีลหลังในสหรัฐ (Liberty & Patriot) (250-300 ลบ./ปี) โดยทุกดีลดังกล่าวนอกจากจะช่วยปิด adder gap แล้วยังจะช่วยหนุนให้กำไรของบริษัทอยู่ในขาขึ้นอีกด้วย โดยเราคาดว่าจะหนุนให้กำไรหลักในปี 2566F อยู่ในช่วง 1.9-2.0 พันลบ. (มี upside อีก +12-18%) และในปี 2567F อยู่ในช่วง 2.4.-2.5 พันลบ. (มี upside อีก 41-47%) ในขณะที่อาจจะทำให้ราคาเป้าหมายของเรามีupside 2-3 บาท/หุ้น เรายังคงคำแนะนำ ถือไว้ก่อน ด้วยราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 10.40 บาท

 

Risks

ปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้านอกแผน, cost overrun, และความผันผวนของ FX และอัตราดอกเบี้ย