PMI จีนออกมาดีกว่าคาด ช่วยผลักดันบรรยากาศลงทุนในเอเซีย 

PMI จีนออกมาดีกว่าคาด ช่วยผลักดันบรรยากาศลงทุนในเอเซีย 

เศรษฐกิจไทย ม.ค.ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ตลาดถูกกดดันจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยลบระยะสั้น ธปท.แถลงข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนม.ค. โดยรวมเศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นจากปีก่อน

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับขึ้น, มูลค่าการส่งออก ปรับตามฤดูกาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.8% (แต่หากไม่ปรับจะ -3.4%), กิจกรรมภาคบริการเพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและภาคการค้าที่ปรับดีขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ม.ค.66 อยู่ที่ 2.14 ล้านราย (ลดลงเล็กน้อยจาก ธ.ค.65 ที่ 2.24 ล้านราย) ขณะที่เงินเฟ้อลดลงจากทั้งพลังงานและอาหารสด อย่างไรก็ตามตามปัจจัยที่ตลาดให้ความสำคัญและตอบรับเชิงลบวานนี้ มาจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่ติดลบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (แต่กว่าคาดการณ์ที่ +1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และชะลอลงจาก ธ.ค.ที่ +1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าไปสูงสุด 35.39 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยช่วยคราวเนื่องจาก 1) ดุลบัญชีเดินสะพัดม.ค.มักเป็นจุดต่ำของปี ก่อนดีขึ้นในช่วง 2-3 เดือนถัดไป 2) การนำเข้าพลังงานในช่วงตั้งแต่ เม.ย.66 มีแนวโน้มลดลง หลังการผลิตของแหล่งเอราวัณ จะเพิ่มขึ้นหลังต่ำสุดในช่วงส่งต่อสัมปทาน (จากเชฟรอนมายังปตท.สผ.) ปีก่อน 3) การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จะทำให้ดุลบริการดีขึ้น บวกต่อทิศทางของดุลบัญชีเดินสะพัดในระยะถัดไป

 

PMI จีนที่ดีกว่าคาดหนุนบรรบากาศของหุ้นภูมิภาค จีนรายงาน PMI ก.พ.ที่ 56.4 สูงกว่าม.ค.ที่ 52.9 และเป็นการดีขึ้นกว่าคาดทั้งภาคการผลิต (52.6 vs คาดการณ์ 50.6) และภาคบริการ (56.3 vs คาดการณ์ 54.9) เราคาดโมเมนตัมที่ดีดังกล่าวจะช่วยฉุดบรรยากาศการซื้อขายของเอเซียในวันนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีส่วนอิงกับเศรษฐกิจจีน อาทิ PTTGC, IRPC, SCC, SCGP เป็นต้น
 

ประเด็นลงทุนระยะกลางที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ DMT, TVDH, FLOYD, SORKON, ASW, S, CBG, AEONTS, SAMART, SDC 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

 

ภาพรวมกลยุทธ์: น่าจะใกล้จุดฟื้นตัว แต่ภาพระยะกลางเริ่มมีความไม่ชัดเจน โดยต้องรอประเมินจากการกลับไปทดสอบ 1,645-1,650 จุด   การเก็งกำไรระยะสั้นเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น //หุ้นแนะนำ: BJC*, KSL*, ADVANC*, SAMART*

แนวรับ: 1,616 / แนวต้าน : 1,635-1,645 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%


 

ประเด็นการลงทุน

Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าคาด – ปรับตัวลงสู่ระดับ 102.9 ในเดือนก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดีดตัวสู่ระดับ 108.5 จากระดับ 106.0 ในเดือนม.ค.

ราคาบ้านสหรัฐชะลอตัว - ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 7.6% ในเดือนพ.ย.

สหรัฐเผยขาดดุลการค้าเพิ่มสู่ระดับ 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์ – ขาดดุลการค้าสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.0% สู่ระดับ 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. จากระดับ 8.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.

Target กำไร,รายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/65 –  EPS 1.89 ดอลลาร์/หุ้น vs Consensus 1.40 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้ 3.14 หมื่นล้านดอลลาร์ vs คาดการณ์ที่ระดับ 3.07 หมื่นล้านดอลลาร์

บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งนิวไฮ 3 เดือนจ่อแตะ 4.0% เก็งเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง – อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนใกล้ 4.0% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าคาดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ครม.ไฟเขียวคลังใส่เงินเพิ่มทุน 90 ล้านบาท โครงการเหมืองโปแตซอาเซียน – ภายใต้ บมจ.อาเซียนโปแตซชัยภูมิ ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องใส่เงินเพิ่มทุน 90 ล้านบาทเพื่อรักษาสัดส่วนหุ้น 20%

ครม.ขยายเวลาโครงการสินเชื่ออาชีพอิสระ ให้กู้ต่อ 2 ปี ถึงมี.ค.68 – เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยขยายระยะเวลากู้เพิ่มอีก 2 ปี จากเดิมไม่เกิน 3 ปี เป็นไม่เกิน 5 ปี สิ้นสุดระยะเวลากู้วันที่ 24 มี.ค.68 เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามกำหนด ให้มีเวลาในการผ่อนชำระหนี้มากขึ้น 

Opportunity day - 1 มี.ค. – SNP, DMT, TLI, AMATAV, BEM, MINT, SPVI / 2 มี.ค. – TCMC, NOBLE, MC, BGC, RBF, IVL, AIT / 3 มี.ค. – CENTEL, HL, RS, AMATA, ASK, BBGI, SUTHA, SVR, HUMAN, 24CS, BJC, PCSGH, JSP, APCO

 

ประเด็นติดตาม: 1 มี.ค. – US ISM Manufacturing PMI, US Crude Oil Inventories / 2 มี.ค. – EU CPI, US Initial Jobless Claims / 3 มี.ค. - ISM Non-Manufacturing PMI, TH CPI / 8 มี.ค. - JOLTs Job Openings / 10 มี.ค. - Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)