BBL - แนวโน้มบวก สินเชื่อโต คุณภาพแข็งแกร่ง

BBL - แนวโน้มบวก สินเชื่อโต คุณภาพแข็งแกร่ง

BBL ให้มุมมองบวกโดยตั้งเป้าหมายทางการเงินปี FY23 ดีขึ้นเกือบทุกตัว ทั้งการขยายพอร์ตสินเชื่อ และ NIM ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง credit cost ที่จะลดลงต่อโดยจะกลับมาอยู่ระดับปกติมากขึ้นหลังเตรียมส่วนรองรับหนี้เสียเอาไว้มากแล้ว เราคงคำแนะนำซื้อ BBL

โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 180 บาท เรามอง BBL จะได้อานิสงส์บวกจากการขึ้นดอกเบี้ยอีกทั้งพอร์ตสินเชื่อดีมีคุณภาพแข็งแกร่ง

               

BBL ประเมินภาพเศรษฐกิจแบบระมัดระวัง สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน

BBL คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในปี 2023 โดยมอง GDP จะขยายตัว 3.0% ขณะที่ประเมิน ธปท. จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 25-75bps อยู่ในกรอบ 1.50-2.00% ทั้งนี้ ประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ของ BBL ถือเป็นหนึ่งในมุมมองที่เป็นค่อนข้างระมัดระวังมากที่สุดในบรรดาธนาคารใหญ่ด้วยกัน โดย BBL มองเห็นความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เป็นอุปสรรค จากการที่ดัชนีในภาคการผลิต และการส่งออกของเศรษฐกิจต่างๆปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ความระมัดระวังของธนาคารก็สอดคล้องกับโมเมนตัมเศรษฐกิจที่อ่อนแอในปัจจุบัน หลัง GDP ของไทยหดตัวลง 1.5% qoq และขยายตัวได้เพียง 1.4% yoy ใน 4Q22 ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปี FY22 อยู่ที่ 2.6% เท่านั้น ต่ำกว่า consensus ที่ 3.2% และทำให้สภาพัฒน์ฯ ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของ GDP ปี FY23 ลงเหลือ 3.2% โดยมองในกรอบ 2.7-3.7% จาก 3.0-4.0% ก่อนหน้า

 

 

 

ตั้งเป้าหมายทางการเงินปี FY23 ในเชิงบวก

ถึงแม้ BBL จะมองว่าภาวะเศรษฐกิจปีนี้จะท้าทายมากขึ้นท่ามกลางอุปสรรคจากปัจจัยเศรษฐกิจภายนอก แต่ธนาคารยังมั่นใจว่าจะได้อานิสงส์จากการขึ้นดอกเบี้ย และ FDI ที่เพิ่มขึ้น โดย BBL คาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะขยายตัว 4-7% ในปีนี้จากกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม BBL ยังตั้งเป้า NIM แบบอนุรักษ์นิยมโดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 10bps เป็น 2.5% และตั้งเป้าจะรักษาระดับรายได้ค่าธรรมเนียม และสัดส่วน C/I เอาไว้ให้ทรงตัว yoy ขณะที่ทางด้านของคุณภาพสินทรัพย์ สัดส่วน NPL อาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.1% เป็น 3.5% จากการขยายพอร์ตสินเชื่อ แต่ credit cost จะปรับลดลงสู่ระดับปกติมากขึ้นจาก 124bps ในปีที่แล้วเหลือ 100bps หลังมีสัดส่วน loss coverage สูงถึง 261% ทั้งนี้ BBL เชื่อว่า credit cost ในระยะยาวน่าจะอยู่ที่ 90-100bps เท่ากับค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโรคระบาด

 

มี Upside จากการที่ credit cost กลับสู่ระดับปกติ

เรามองว่าเป้าของ BBL ในปี FY23 ค่อนข้างบวก เพราะธนาคารตั้งเป้าหมายให้ตัววัดทางการเงินดีขึ้นเกือบทุกตัว ทั้งการขยายพอร์ตสินเชื่อ รวมถึง NIM ที่ฟื้นตัว กอปรกับ credit cost ที่ค่อยๆลดลงต่อสู่ระดับปกติ เรามองว่าประมาณการกำไรของเรามี upside จากการตั้งสำรองหนี้เสีย จากที่เราประเมิน ECL จะอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาทในปี FY23F เทียบกับ BBL ที่ตั้งเป้าไว้ 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท แปลงจากเป้า credit cost 100bps แม้เป้า NIM ของ BBL จะต่ำกว่าที่เรามอง ผู้บริหารยอมรับว่าเป้าค่อนข้างอนุรักษ์นิยมและมีแนวโน้มออกมาสูงกว่านั้นได้ ทำให้เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ BBL โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 180 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.65x เราคาดว่า BBL จะได้อานิสงส์จากกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะต่อไป จากอุปสงค์สินเชื่อที่แข็งแกร่งขึ้น และ NIM ที่ฟื้นตัวรวมถึงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ที่น้อยกว่าหากพิจารณาจาก profiles ทางการเงินของลูกค้าขนาดใหญ่ที่ฟื้นตัวได้ดีกว่า