PSH - แยกดำเนินการธุรกิจ precast (17 ม.ค. 2566)

PSH - แยกดำเนินการธุรกิจ precast (17 ม.ค. 2566)

PSH ขายหุ้น 51% ในบริษัทลูก Inno Precast โดยแลกเป็นหุ้น 18.26% ใน GEL ดีลคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2023 โดยประเมิน PSH จะบันทึกกำไรทางบัญชีจากดีลนี้ 700 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานหลักของ PSH ปีนี้เรามองมีแนวโน้มอ่อนแอและราคาหุ้นไม่เหลือ upside ดังนั้น เราจึงคงคำแนะนำถือสำหรับ PSH โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท

 

PSH เตรียมแยกขายธุรกิจ pre-cast ออก

PSH ประกาศจะแยกธุรกิจ pre-cast ออกโดยจะนำหุ้น 51% ใน “Inno Precast” (PSH ถือหุ้น 100%) ไปแลกกับหุ้นใหม่ 18.26% (1,572.7 ล้านหุ้น) ของ GEL โดยราคาหุ้น GEL ในดีลแลกหุ้นนี้อยู่ที่ 0.37 บาท/หุ้น คิดเป็น premium 23% จากราคาปิดก่อนการประกาศดีลที่ 0.30 บาท โดยมูลค่าธุรกรรมรวมประเมินอยู่ที่ 582 ล้านบาท แม้ว่าราคาหุ้นจะมี premium จากราคาตลาด แต่ยั้งต่ำกว่า BVPS ที่ 0.58 บาท หรือคิดเป็น PBV ที่ 0.64x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นในกลุ่มที่ 1.45x นอกจากนี้ GEL ยังมี call option เพื่อซื้อหุ้นส่วนที่เหลืออีก 49% ในอีกห้าปีข้างหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูและ และต้องมีผลการทำ due diligence ที่น่าพอใจ

 

 

 

กำไรทางบัญชี 700 ล้านบาท และ synergy ช่วยประหยัดต้นทุน

ดีลแลกหุ้นนี้น่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในกลางปี 2023 โดยคาดว่า PSH จะบันทึกกำไรทางบัญชี 700 ล้านบาท และจะได้ประโยชน์จาก synergy ที่ช่วยประหยัดต้นทุนจากการจัดซื้อที่ประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อปี ในขณะเดียวกัน GEL จะกลายเป็นบริษัท pre-cast อันดับหนึ่งของไทยในแง่กำลังการผลิต และคาดว่าจะได้สามารถใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นถึงในระดับที่เหมาะสม และจะอาจเรียก margin ได้ดีขึ้นจากอำนาจต่อรองที่สูงขึ้น โดยในปัจจุบัน GEL เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตที่ 100% สามารถสร้างรายได้อยู่ที่ประมาณ 2-3 พันล้านบาทในปี 2565 แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 พันล้านบาทได้ในปี 2566 โดยใช้สมมติฐานอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 70-75% (คำนวณจาก 2 พันล้านบาท จากกำลังการผลิตของ GEL + อีก 4.7 พันล้านบาท จากกำลังการผลิตของ Inno Precast)

 

Valuation upside จำกัด ในขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานหลักดูอ่อนแอ

เรามองว่าประมาณการกำไรของเราในปี FY23 มี upside ประมาณ 20-25% จากมีกำไรทางบัญชีที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากดีลนี้ ในขณะที่ synergy ระยะยาวในแง่ของการประหยัดต้นทุนยังไม่ชัดเจนนักในมุมมองของเรา อย่างไรก็ตามเรามองกำไรจากการดำเนินงานหลักในปี 2023 ที่ไม่รวมกำไรทางบัญชีน่าจะต่ำกว่าในปี 2022 เพราะมีคอนโดมิเนียมใหม่ที่มีกำหนดสร้างเสร็จและเริ่มโอนลดลง โดยจะมีเพียงหนึ่งโครงการในปีนี้ เทียบจากที่มีถึง 7 โครงการในปี 2022 ทั้งนี้ เนื่องจากผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักมีแนวโน้มอ่อนแอ และราคาหุ้นไม่มี upside เราจึงยังคงคำแนะนำถือ PSH โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท