ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (30 ธ.ค. 2565)

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (30 ธ.ค. 2565)

สรุปภาพรวมการลงทุนปี 2565 ดัชนีหุ้นไทยนับจากต้นปี (ถึง 29 ธ.ค.65) ปรับขึ้น +0.22% ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 71,199 ล้านบาท (-19%) ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 198,669 ล้านบาท, นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 152,079 ล้านบาท, นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 42,317 ล้านบาท และนักค้ากำไรของบล. (Proprietary) ขายสุทธิ 4,272 ล้านบาท

•    กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกมี 9 กลุ่ม ได้แก่ ETRON (+40%), TOURISM (+36%), HELTH (+27%), PROF (+19%), PROP (+15%), TRANS (+13%), FASHION (+7%), COMM (+5%) และ ENERGY (+1.79%) 

•    กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนแย่สุด 5 อันดับ ได้แก่ PERSON (-51%), IMM (-40%), STEEL (-24%), AGRI (-20%), MEDIA (-19%)

•    หุ้นใน SET50 ที่ปรับเพิ่มมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ BH (+53%), SCB (+50%), PTTEP (+49%), CRC (+47%) AWC (+38%), KTB (+35%), BDMS (+29%), BANPU (+29%), CPN (+28%), AOT (+25%)

•    หุ้นใน SET50 ที่ปรับลดลงมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ KCE (-47%), MTC (-34%), JMART (-28%), BLA (-22%), IRPC (-21%), SAWAD (-20%), PTTGC (-19%), CBG (-19%), TIDLOR (-18%), GPSC (-17%)

 

 


 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ STP, TNR, DMT, TVDH, KLINIQ, FLOYD, SORKON 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวขึ้นแม้ปริมาณซื้อขายเบาบาง ยังคงมุมมองบวกต่อหุ้นไทยแม้อาจมีแรงขายปรับพอร์ตบ้างช่วงต้นปี หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวโดดเด่นในระยะสั้น เน้นตัวที่ยัง Laggard หรือที่มีสัดส่วนรายได้จากคนจีนสูงมากๆ ขณะที่ คาดเห็นแรงเก็งกำไรในกลุ่มอื่นๆที่ยังขึ้นน้อย อาทิ การเงินและรับเหมาก่อสร้าง  //หุ้นแนะนำ: SCGP, VRANDA, BAM*, TTCL*

แนวรับ: 1,647 / แนวต้าน : 1,670 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

ประเด็นการลงทุน
 

EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น สวนทางคาดการณ์ – เพิ่มขึ้น 718,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 700,000 บาร์เรล

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสอดคล้องคาดการณ์ – เพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสอดคล้องคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

TSMC เริ่มผลิตชิป 3 นาโนเมตรจำนวนมาก – บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค จำกัด เริ่มการผลิตชิปรุ่นต่อไปเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างความมั่นใจว่าไต้หวันยังคงเป็นแกนหลักของเทคโนโลยีสำคัญที่รัฐบาลหลายประเทศต่อสู้แย่งชิงกัน

GDP เวียดนามโต 8.02% ในปี 2565 ขยายตัวเร็วสุดในรอบ 25 ปี - ซึ่งเป็นการขยายตัวรายปีเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 โดยได้แรงหนุนจากยอดค้าปลีกภายในประเทศและการส่งออกที่แข็งแกร่ง

การท่องเที่ยวเวียดนามซบ หลังชาวรัสเซียแห่เดินทางเข้าไทย – จากเดิมที่เวียดนามถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวรัสเซีย โดยชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศต่ำกว่า 40,000 คนในปีนี้ โดยลดลงเกือบ 94% จากระดับ 650,000 คนที่ทำไว้ในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

คมนาคม ประเมินปีหน้าผู้โดยสารชาวจีนเข้าไทย 7-10 ล้านคน – ฟื้นตัวกลับมา 50% จากปี 62 พร้อมสั่ง AOT เร่งเปิดอาคารเทียบเครื่องบิน SAT-1 ไตรมาส 2/66 จากเดิม 3/66 ขณะที่ AOT คาดผู้โดยสารรวม 96 ล้านคน เริ่มมีกำไรกว่า 1,000 ลบ. 

หุ้นซื้อขายวันสุดท้าย – ABICO (3 ม.ค.), UPA-W2 (3 ม.ค.)

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ MOSHI, KTMS, MTW, WARRIX

 

ประเด็นติดตาม: 4 ม.ค. - ISM Manufacturing PMI, JOLTs Job Openings / 6 ม.ค. – EU CPI, Nonfarm Payrolls, US Unemployment Rate, ISM Non-Manufacturing PMI / 12 ม.ค. – US CPI / 13 ม.ค. – EU Industrial Production / 18 ม.ค. – EU CPI, US Retail Sales, US PPI   

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)