HANA ผลประกอบการ 3Q65: กำไรจากธุรกิจหลักดีเกินคาด

HANA ผลประกอบการ 3Q65: กำไรจากธุรกิจหลักดีเกินคาด

กำไรสุทธิของ HANA ใน 3Q65 อยู่ที่ 417 ล้านบาท (-26% YoY, +70% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของKGI 29% และต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 20%

แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ (ขาดทุนจากอัตราปลกเปลี่ยน) กำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q65 จะอยู่ที่ 843 ล้านบาท (+20% YoY, +40% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 44% เนื่องจากยอดขายสูงกว่าที่คาดไว้ 15% และอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าที่คาดไว้ 1.6ppts ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9M65 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (-2% YoY) คิดเป็น 87% ของประมาณการเต็มปีของเรา

 

รายได้เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

รายได้ของ HANA ใน 3Q65 อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท (+21% YoY, +18% QoQ) แต่หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้ใน 3Q65 จะอยู่ที่ 207 ล้านดอลลาร์ฯ (+9% YoY, +11% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 15% และทำให้รายได้ในงวด 9M65 อยู่ที่ 578 ล้านดอลลาร์ฯ (+4% YoY) คิดเป็น 76% ของประมารการเต็มปีของเรา

 

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.5%

อัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q65 อยู่ที่ 15.5% (-0.2ppts YoY, +1.7ppts QoQ) สูงกว่าประมาณการของเรา 1.6ppts โดยอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นทั้งจากธุรกิจ PCBA (18.3% ใน 3Q65 จาก 18% ใน 3Q64) และธุรกิจประกอบ IC (13.9% ใน 3Q65 จาก 13.8% ใน 3Q64) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9M65 อยู่ที่ 13.5% (-1.4ppts YoY) สูงกว่าสมมติฐานปี 2565 ของเราที่ 13.1%

 

 

สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 5.4%

ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 408 ล้านบาท (+9% YoY, +2% QoQ) คิดเป็นสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่ 5.4%(ลดลงจาก 6% ใน 3Q64 และ 6.3% ใส 2Q65) ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายในงวด 9M65 อยู่ที่ 5.9% (ลดลงจาก 6.1% ในงวด 9M64)

 

อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

คณะกรรมการของ HANA อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.50 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 และ 30 มิถุนายน 2565 กำหนดขึ้น XD วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.3% จากราคาปิดล่าสุด

 

Valuation

เราแนะนำ “ถือ” HANA และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 38 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.25 S.D.)

 

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565-66 ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)