สายย่อรอเด้ง (10 พฤศจิกายน 2565)

สายย่อรอเด้ง (10 พฤศจิกายน 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index -10 จุด (-0.62%) ปิดที่ระดับ 1,622 จุด จากแรงเทขายหุ้นโรงกลั่น, ปิโตรฯ และ ไฟแนนซ์ ผิดหวังงบ 3Q22 ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด อาทิ SPRC PTTGC และ MTC 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET พักตัวแนวรับ 1,610 - 1,615 จุด ตามความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ ,ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นและ Covid-19 ในจีนเพิ่มขึ้น รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงก่อนประกาศตัวเลข CPI สหรัฐเดือนต.ค.ในวันนี้ (คาด +7.9% YoY  ชะลอตัวลงจาก 8.2%) ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ Selective buy ในกลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  คาด 3Q22 เติบโต BDMS CPF GFPT BANPU EPG BEM BTS WHA LH 

  AOT CENTEL ERW BA AAV SISB CPN CRC CPALL อานิสงส์การเปิดประเทศและคาดงบ 3Q22 เติบโต

  กลุ่มได้ประโยชน์ราคาพลังงานอ่อนตัวลง SCGP SCC GPSC GULF BGRIM MINT

 

หุ้นแนะนำวันนี้

      BBL (ปิด 145.50 ซื้อ/เป้า 180 บาท) ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยไทยยังเป็นขาขึ้น ทิศทาง ศก.ยังเติบโตหนุนยอดสินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยสัปดาห์หน้าสภาพัฒน์ประกาศ GDP 3Q22 Consensus คาดขยายตัว 3.7% จาก 2.5% ใน 2Q22 

     SHR (ปิด 3.80 ซื้อ/เป้า BB Consensus 5.10 บาท) ประกาศงบ 3Q22 กำไรปกติพลิกเป็นบวกครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าตลาดฯ แนวโน้ม 4Q22 ยังโตต่อโรงแรมในไทยและมัลดีฟหนุนรับ High season

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

BCP, BCPG, GPSC, MAJOR, OSP, PTTGC, TOP

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (-) ดาวโจนส์ร่วง 647 จุด ขายลดเสี่ยงรอผลเลือกตั้งสหรัฐ: ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 647 จุด (-1.95%) ปิดที่ 32,514 จุด จากแรงขายทำกำไรและลดความเสี่ยงเพื่อรอดูผลเลือกตั้งของสหรัฐที่การนับคะแนนยังไม่สิ้นสุด (วุฒิสภา 48:48, วุฒิสภา รีพับลิกัน 208: เดโมแครต 188 ) 

  (-) น้ำมันร่วงแรงจากสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งและผู้ติดเชื้อโควิดในจีนเร่งตัว: น้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.08$ (-3.5%) ปิดที่ 85.83$/bbl ผิดหวังตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 7 แสนบาร์เรล นอกจากนี้ยังกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนเร่งตัวแตะระดับ 7,000 รายสูงสุดในรอบ 5 เดือน

  (+/-) ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐชี้วัดการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด: เบื้องต้น Consensus คาดเงินเฟ้อทั่วไปจะลดลงแตะระดับ 7.9% จาก 8.2% ในเดือน ก.ย. และคาดเงินเฟ้อพื้นฐานจะลดลงเป็น 6.5% จาก 6.6% ในเดือน ก.ย. หากเงินลดลงตามหรือมากกว่าคาดจะหนุนให้เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยบวกกับตลาด