CHG ประมาณการ 3Q65F: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

CHG ประมาณการ 3Q65F: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ CHG จะแผ่วลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใน 2H65F เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ดีขึ้นมาตั้งแต่ปลาย 2Q65

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CHG ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 427 ล้านบาท (-72.7% YoY, -51.4% QoQ) คิดเป็น 14.9% ของประมาณการใหม่สำหรับปีนี้ของเราที่ 2.86 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรากำไรสุทธิในงวด 9M65F น่าจะคิดเป็น 93.0% ของประมาณการกำไร ปี FY65F

i) เราคาดว่ากำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ ใน 3Q65F โดยคาดว่ารายได้ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 2.28 พันล้านบาท (-48.0% YoY, -18.0% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาอยู่ที่ 31.0% จาก 50.8% ใน 3Q64 และ 46.2% ใน 2Q65 เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดลดความรุนแรงลงทั้ง YoY และ QoQ เราคาดว่ารายได้ของ CHG ที่มาจากบริการที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จะอยู่ที่ 18% ใน 3Q65 ลดลงจาก 40% ใน 2Q65 และ 60% ใน 3Q64 นอกจากนี้ รัฐบาลยังจ่ายค่ารักษา COVID-19 ลดลงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าบริการรักษาพยาบาลที่ไม่เกี่ยวกับ COVID จะเพิ่มขึ้นทั้ง YOY และ QoQ
ในขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 และรวมแพทย์ ฉะเชิงเทรา จะแข็งแกร่ง  ii) รายได้จากการบริหารจัดการโรงพยาบาลจะช่วยหนุนกำไร ทั้งนี้ หลายไตรมาสที่ผ่านมา CHG รับรู้รายได้จากการบริหารจัดการโรงพยาบาลที่พัทยา เกาะล้าน แลศูนย์หัวใจโรงพยาบาลสิรินธร (ประมาณ70-100 ล้านบาทต่อไตรมาส)

 

 

 

ผลการดำเนินงานใน 4Q65 น่าจะทรงตัว QoQ

เราคิดว่าผลการดำเนินงานใน 2H65 จะแผ่วลง HoH เพราะสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ลดความรุนแรงลงหลังจากที่รัฐบาลประกาศให้ COVID เป็นโรคประจำถิ่น ทั้งนี้ เมื่ออิงจากผลการดำเนินงานใน 3Q65F เราเชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการใน 4Q65 จะทรงตัว QoQ เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการรักษาพยาบาลโรคอื่นที่ไม่ใช่ COVID เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เลื่อนการรักษาในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งในส่วนของผู้ป่ วยชาวไทย และต่างชาติ (ประมาณ 3% ของรายได้รวมในช่วงก่อน COVID ระบาด)

 

Valuation & Action

เราชอบ CHG ในแง่ของ platform ธุรกิจที่มีการกระจายตัวดีทำให้มีรายได้จากหลายทาง เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F เอาไว้เท่าเดิมที่ 2.86 พันล้านบาท (-31.9% YoY) และปี 2566F ที่ 1.63 พันล้านบาท (-43.0% YoY) แต่เรามองว่าประมาณการกำไรสุทธิในปี 2565F ของเราน่าจะยังมี upside อีก 5% ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 4.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%)

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง และ เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่