GGC ประมาณการ 3Q65F: ผลขาดทุนก้อนใหญ่จากสต็อก

GGC ประมาณการ 3Q65F: ผลขาดทุนก้อนใหญ่จากสต็อก

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ GGC ใน 3Q65F จะลดลงมาอยู่ที่ 51 ล้านบาท (-79% YoY, -88% QoQ) โดยกำไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ เป็นเพราะเราคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากสต็อก 450 ล้านบาท ลดลงจากที่มีกำไรจากสต็อก 132 ล้านบาทใน 3Q64 และมีผลขาดทุนจากสต็อก 133 ล้านบาทใน 2Q65

หลังจากที่ราคา CPO ในประเทศไทยลดลงจาก 51.60 บาท/กก. ในเดือนมิถุนายน เหลือ 32.00 บาท/กก. ในเดือนกันยายน ตามราคา CPO ในภูมิภาคที่ลดลงเพราะผลผลิตในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียเพิ่มขึ้น รวมถึงราคา CPKO ลดลงจาก US$1,702/ton ในเดือนพฤษภาคม เหลือ US$1,015/ton ในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรขั้นต้นของธุรกิจไบโอดีเซล (B100) ของ GGC จะลดลง QoQ ใน 3Q65 เนื่องจากราคา CPO ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เราคาดกำไรจากการดำเนินงานของ GGC จะลดลง 34% QoQ มาอยู่ที่ 370 ล้านบาทใน 3Q65F แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า product-to-feed (P2F) margin ของธุรกิจ fatty alcohol (FA) จะเพิ่มขึ้น 10% QoQ เป็น US$640/ton เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ CPKO ลดลงอย่างมาก ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ FA ทยอยขยับลดลงใน 3Q65 ในขณะเดียวกันเราคาดว่าปริมาณยอดขาย B100 จะขยับเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น 70,600 ตัน และปริมาณยอดขาย FA จะเพิ่มขึ้น 4% QoQ เป็น 25,700 ตัน เนื่องจากอุปสงค์ดีขึ้นหลังจากการผ่อนคลายข้อจำกัดในการคุม COVID-19

มีการปรับเป็นดีเซล B7 แต่การแข่งขันยังสูง

กระทรวงพลังงานปรับส่วนผสมของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B7 ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม – 31 ธันวาคม หลังจากที่ราคา CPO ลดลงมาอยู่ในช่วง 30-35 บาท/กก. ซึ่งจะทำให้มีการใช้B100 ในประเทศเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น B100 ในอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะกำลังการผลิตติดตั้ง B100 ของประเทศในปัจจุบันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำมันดีเซล B10 ซึ่งหมายความว่าการแข่งขันจะยังสูงอยู่ นอกจากนี้ กำลังการผลิตติดตั้ง B100 ยังเพิ่มขึ้นอีก 4% QoQ เป็น 10.1 ล้านลิตร/วัน ในเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากผู้ผลิต B100 สองแห่งขยายกำลังการผลิตเพิ่ม จากข้อมูลของกรมธุรกิจพลังงาน (DOEB) เรายังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น B100 ของ GGC จะลดลง HoH ใน 2H65 เนื่องจากราคา CPO ลดลงอย่างมาก แม้ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรม B100 ของไทยจะลดลงเล็กน้อยก็ตาม

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ขาย GGC และคงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 11.30 บาท อิงจาก PE ที่ 20.0x เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะถูกกดดันจากกำไรที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน 3Q65 นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรใน 4Q65 ไม่น่าจะดีนักเพราะ spread ของ FA และ refined glycerin อยู่ในขาลง ในขณะเดียวกันเราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565F ขึ้น 27% เป็น 981 ล้านบาท เนื่องจากปรับเพิ่ม P2F margin ของ FA ขึ้นจากเดิม

 

Risks

ความผันผวนของราคา CPO, margin ของ B100 และ P2F margin ของ FA รวมถึงการปรับข้อบังคับในการใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลภาคบังคับของไทย และแพ้คดีวัตถุดิบหายในชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งตัดสินให้ GGC ชำระค่าเสียหาย 290 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีก 15% ต่อปี