SNC ล่องลอยอยู่ในอากาศ (3 ตุลาคม 2565)

SNC ล่องลอยอยู่ในอากาศ (3 ตุลาคม 2565)

SNC เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน Original Equipment Manufacturer (OEM) เครื่องปรับอากาศ (A/C) ระดับแนวหน้าของไทยซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดราว 10% ของยอดผลิต A/C รายปี

โดยบริษัทดำเนินการผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ ประกอบเครื่องปรับอากาศ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และชิ้นส่วนยานยนต์  โดยมีสายการผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำที่หลากหลาย ทั้งจาก ทองแดง อลูมิเนียม พลาสติก และเหล็ก

 

จะได้อานิสงส์อย่างมากจากการย้ายฐานการผลิตของสายโซ่อุปทานทั่วโลก

SNC ได้ลูกค้ารายใหญ่หลายรายในเวียดนาม และจีนในช่วงปี 2562-2563 ซึ่งทำให้รายได้ OEM พุ่งขึ้นมาเป็น 1.1 หมื่นล้านบาทในปี 2564 จาก 2.6 พันล้านบาทในปี 2562 (คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 109%CAGR ในช่วง 2 ปี) ทั้งนี้ เนื่องจาก A/C ทีผลิตในประเทศจีนต้องเสียภาษีในการส่งออกไปสหรัฐประมาณ 20-25% ในขณะที่สหรัฐเก็บภาษีจาก A/C ที่ส่งออกไปจากประเทศไทยเพียงประมาณ 2%  ดังนั้น เราจึงคาดว่า SNC จะได้รับคำสั่งซื้อ OEM เพิ่มขึ้นอีกอย่างมากที่ช่วงที่เราประมาณการเอาไว้

 

เพิ่มกำลังการผลิต A/C เพื่อกุมโอกาสที่ผ่านเข้ามา

เราคาดว่ากำลังการผลิต A/C จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 1 ล้านเครื่อง/ปี ในปี 2563 เป็น 4 ล้านเครื่อง/ปี ในปี 2567F ตามยอดคำสั่งซื้อจากตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้างจากการพึ่งพาลูกค้าจากจีน แต่ลูกค้าบางรายได้สร้างสายการผลิตของตัวเองบางส่วนในโรงงาน SNC ที่ระยอง และมีการเซ็น MOU ที่ครอบคลุมระยะเวลา 3 ปีด้วย

 

 

 

 

 

คาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 21% CAGR ในช่วงสองปีข้างหน้า

เราคาดว่ากำไรปกติจะโตถึง 21% CAGR ในช่วงสองปีข้างหน้าถึงปี 2566F เป็น 785 ล้านบาทในปี 2565F และ 920 ล้านบาทในปี 2566F นำโดยรายได้ OEM ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เราคาดว่าธุรกิจยานยนต์ และชิ้นส่วนยังน่าจะเติบโตอย่างสม่ำเสมอปีละ 5-10% ในอีกสองปีข้างหน้าสอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรม

 

Valuation & action

เราเริ่มศึกษาหุ้น SNC ด้วยคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 23.50 บาท อิงจาก PE ปี 2566F ที่ 9.2x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.5 S.D. เราคาดว่ากำไรของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตจากการขยายกำลังการผลิต OEM ในขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่แพง (คิดเป็น PE เพียง 6.7x หรือ -0.7SD และคิดเป็น PEG ที่ 0.4x) โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2565-2566F ที่ 7-8%

 

Risks

เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้าน้อยราย