Sideways Down ซื้อเก็งกำไร TRUE BBL GULF

Sideways Down ซื้อเก็งกำไร TRUE BBL GULF

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1,630/1,642 จุด แนวรับ 1,610/1,600 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TRUE BBL GULF ทางเทคนิค หากดัชนีฯ ยืนเหนือ 1,618 จุด (EMA 200 วัน) ไม่ได้แนะนำให้ทยอยขายก่อน เพื่อรอซื้อคืนที่แนวรับหลัก

โมเมนตัมลบ คือ การกังวลต่อกระแสเงินทุนต่างชาติอาจกลับมาเป็นผู้ขายสุทธิ เพื่อลดความเสี่ยง FX จากเงินบาทอ่อนค่าและการล็อกกำไรเพื่อปิดงวดบัญชี 3Q22 ไฮไลท์วันนี้ คือ OPEC ออกรายงาน World oil outlook, USA สุนทรพจน์ Fed Chicago Evans (Non-Voter), New home sales และDurable goods เดือน ส.ค., China Industrial Profits เดือน ส.ค.

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC JMART TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT EA PTG WHA KKP CPN MINT KTB BDMS

+ Daily Recommendations: TRUE (ดีลควบรวมระหว่าง TRUE กับ DTAC มีแนวโน้มประสบความสำเร็จ) BBL (รับผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และ Bond Yields ที่สูงขึ้น) GULF (ปัจจัยหนุนมาจากความคืบหน้าของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์แนวโน้ม Bond Yields ปรับตัวสูง: BBL KBANK SCB TIPH TLI

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT

+ หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า: DELTA SAPPE

 

ปัจจัยลบ

- ดุลการค้าไทยเดือน ส.ค. ขาดดุลสูงขึ้นและสูงกว่าคาด: โดยรายงานขาดดุล -USD4.215bn. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2013 (ส่งออก +7.5% YoY นำเข้า +21.3% YoY) สูงขึ้นเมื่อเทียกับเดือน ก.ค. ที่ขาดดุล -USD3.66bn. (ส่งออก +4.3% YoY นำเข้า +23.9% YoY) และสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะ ขาดดุลลดลงเป็น -USD3.15bn. (ส่งออก +7.7% YoY นำเข้า +17.9% YoY)

 

 

 

- Fed: นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ ระบุว่าความผันผวนของตลาดการเงินอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน และมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เฟดยังคงยึดมั่นเป้าหมายในการกำหนดนโยบายการเงิน เพื่อกลับสู่เสถียรภาพด้านราคาในสหรัฐฯ ซึ่งมีนัยในการสนับสนุนการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

- Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยวานนี้ -1,918.96 ล้านบาท ขณะที่เปิดสถานะ Short สุทธิใน SET50 Index Futures -19,026 สัญญา

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: PSTC TPS CPANEL STI TFG GPI UBIS

- OPEC: รายงาน World oil outlook

- USA: สุนทรพจน์ Fed Chicago Evans (Non-Voter), New home sales เดือน ส.ค. คาด -0.5% MoM (Vs เดือน ก.ค. -12.6% MoM), Durable goods เดือน ส.ค. คาด -0.5% MoM (Vs เดือน ก.ค. 0%), House Price Index เดือน ก.ค. คาดเติบโตเท่าเดิม +0.1% MoM

- China: Industrial Profits เดือน ส.ค. คาด +1.3% YoY (Vs เดือน ก.ค. +0.8% YoY)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นวันที่ 2: ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาดที่ 1,620.23 จุด -11.48 จุด ตามการร่วงแรงของตลาดหุ้นภูมิภาค ก่อนเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways Down กรอบ 1,627.95-1,615.32 จุด และมาปิดตลาดที่ 1,621.25 จุด -10.46 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.12 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ -2.16% ธุรกิจการเกษตร -1.92% สื่อและสิ่งพิมพ์ -1.53% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -1.36% ธนาคาร -1.12% อาหารและเครื่องดื่ม -1.05% หุ้นบวก >4% UREKA A5 TNDT UMI INGRS DPAINT ANAN HYDRO UMS CEYE BE8 JAS หุ้นลบ >4% BANPU SABUY KISS CHIC SPVI MITSIB SO LANNA NUSA SVOA BCPG CPW AMANAH

 

 

 

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน: DJIA -1.11% S&P500 -1.03% NASDAQ -0.60% โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะตลาดหมี จาก ความกังวลต่อการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยหุ้น 10 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ย และกลุ่มพลังงาน ตามการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบโลก ส่วนกลุ่มคาสิโนพุ่งขึ้น รับข่าวมาเก๊าเตรียมเปิดรับกรุ๊ปทัวร์จีนในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นการเปิดครั้งแรกรอบเกือบ 3 ปี ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ CAC40 -0.24% DAX -0.46% FTSE +0.03% จากแรงขายหุ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางต่าง ๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -USD 2.03 ปิดที่ USD76.71/บาร์เรล Brent -USD2.09 ปิดที่ USD84.06/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จากวิตกอุปสงค์น้ำมันโลกลดลง และแรงกดดันของค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ ส่วนราคาทองคำร่วงต่อ -USD22.20 ปิดที่ USD1,633.40/ออนซ์ ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2000 โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงิน USD +0.81% แตะระดับ 114.1 และการปรับตัวขึ้นของ Bond Yields 10 ปีแตะระดับ 3.90%

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ส.ค. 2022 มีมูลค่า 23,632.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 7.5% จากตลาดคาดว่าจะขยายตัว 7.3-7.7% ทำให้การส่งออกในช่วง 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) ขยายตัว 11.0% ที่มูลค่า 196,446.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าในเดือน ส.ค. มีมูลค่า 27,848.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 21.3% ส่งผลให้การนำเข้าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 21.4% ที่มูลค่า 210,578.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ดุลการค้าในเดือน ส.ค. 2022 ขาดดุล 4,215.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขาดดุล 14,131.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

- USA: ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.00 ในเดือน ส.ค. จากระดับ +0.29 ในเดือน ก.ค. การปรับตัวลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและภาคการผลิต

+/- UK: ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ออกแถลงการณ์ระบุว่า BoE กำลังจับตาสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ค่าเงินปอนด์ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เทียบดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี นายเบลีย์ส่งสัญญาณว่า BoE ไม่มีแผนที่จะจัดการประชุมฉุกเฉินแต่อย่างใด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BBL BLA TFG

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TRUE BBL GULF

Derivatives: แนะรอเปิด Short S50U22 เมื่อดีดตัว