การเก็งกำไรให้น้ำหนักกับการเดินตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 

การเก็งกำไรให้น้ำหนักกับการเดินตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 

อาจมีฟื้นตัวสลับ แต่ภาพรวมจะถูกกดดันจากการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลก ภาพรวมหุ้นโลกที่ปรับลดลงมาแรง ทำให้อาจมีการฟื้นตัวสลับตามแนวรับเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม เราประเมินช่วง 1 เดือนข้างหน้า จะยังเห็นแรงกดดันจากการทยอยปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลก

รวมถึงการปรับประมาณการกำไรบจ.โดยเฉพาะในกลุ่มที่ผลประกอบการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจภายนอก อาทิ พลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ล่าสุด OECD ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2565 และ 2566 เหลือ 3% และ 2.2% ซึ่งกลุ่มที่ปี 2566 ยังมีการเติบโตในเกณฑ์ดี ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, จีน ขณะที่กลุ่มที่เติบโตต่ำ ได้แก่ ญี่ปุ่น (1.4%), บราซิล (0.8%), ฝรั่งเศส (0.6%), สหรัฐฯ (0.5%), อิตาลี (0.40%), อังกฤษ (0%), เยอรมัน (-0.7%), รัสเซีย (-4.5%) การทยอยออกมาปรับประมาณการของหน่วยงานต่างๆ รวมถึง IMF ที่จะเกิดในช่วงต้นต.ค. จะเป็นปัจจัยกดดันให้การฟื้นตัวมีลักษณะเฉพาะตัวและกลุ่ม และมีความไม่แน่นอนสูง
 

ให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ (US Dollar) มากกว่าทิศทางการขึ้นดอกเบี้ย ในสถานการณ์ปกติหรือในกรณีที่ตลาดมองว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำให้เศรษฐกิจชะลอเพื่อลดเงินเฟ้อ (Soft landing) ตลาดหุ้นจะเริ่มฟื้นตัวหลังดอกเบี้ยสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดของวัฏจักร อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เศรษฐกิจแย่ จะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) เราพบว่า ดัชนีค่าเงินสหรัฐฯ (Dollar Index) เป็นตัวชี้วัดการฟื้นตัว หรือระดับความน่าสนใจในการเข้าลงทุนที่ดีกว่า ซึ่งจุดสูงสุดของการแข็งตัวของเงินดอลลาร์ฯ อาจเกิดได้ทั้งก่อนจุดสูงสุดของวัฏจักรดอกเบี้ย, ระหว่างดอกเบี้ยสูงสุด หรือหลังดอกเบี้ยนโยบายทำจุดสุงสุด ดังนั้น แนะนำนักลงทุนให้ติดตามเหตุการณ์ที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนทิศทางและโมเมนตัมของค่าเงินสหรัฐฯ  
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 5) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, RS, SC, TH, TLI, BAM, EA, BAFS, CK, MBK, SAMART, TPIPL, ARIN, SVT, TFG, MC, TKN, SCGP, MONO, ONEE, SKE, AU

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวลงในกรอบ 1,600-1,670 จุด อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ส่วนกลุ่มพลังงานแค่รอเก็งกำไรแนวรับ และเลี่ยงหุ้นโรงกลั่นที่กำไรไตรมาส 3 น่าจะชะลอหนัก   //หุ้นแนะนำ:  ADVANC*, TTCL*, AAV*, LHFG*

แนวรับ: 1,605-1,611 / แนวต้าน : 1,632 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 


 

ประเด็นการลงทุน

บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งทะลุ 4.3% นิวไฮ 15 ปี - สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวสูงกว่าระยะยาว ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีชี้วัดความวิตกนักลงทุนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน - ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 32.88 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.

BoE ส่งสัญญาณไม่มีแผนจัดประชุมฉุกเฉิน – แม้ปอนด์ทรุดหนักเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ BoE มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 3 พ.ย. และอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจช้าเกินไปในการแก้ไขปัญหาปอนด์ดิ่งลง

พาณิชย์ เผยส่งออก ส.ค.โต 7.5% มั่นใจทั้งปียังเกินเป้า - การส่งออกของไทยในเดือน ส.ค.65 มีมูลค่า 23,632.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.5% จากตลาดคาดว่าจะขยายตัว 7.3-7.7% ทำให้การส่งออกในช่วง 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) ขยายตัว 11.0% ที่มูลค่า 196,446.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนทั้งปีมั่นใจทำได้เกินเป้าที่ 4-5%

ธปท.เร่งออกเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ ลดก่อหนี้เกินตัว – ปี 53 หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 60% ต่อจีดีพี ผ่านไป 10 ปี หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ต่อจีดีพีในปี 62 และเพิ่มขึ้นเป็น 90% ในไตรมาส 1/64 จากโควิด-19 ขณะที่ล่าสุดในไตรมาส 2/65 หนี้ครัวเรือนลดลงมาอยู่ที่ 88% 

รมว.คลัง ไม่มีมีแนวคิดเก็บ VAT 2 อัตรา – กรณีมีกระแสข่าวว่า กระทรวงคลังเตรียมเสนอแนวคิดการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 2 อัตรา โดยอัตราปกติ 7% สำหรับสินค้าทั่วไป และอัตราสูงกว่า 7% สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ สุรา ยาสูบ เป็นต้น ก.คลังไม่เคยมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม 

กกพ. เตรียมรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวหนุนต่อยอด Green Tariff ในภาคอุตสาหกรรม - เห็นชอบให้ออกระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 65-73 กลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.65

ธ.ซิตี้แบงก์อยู่ระหว่างเตรียมการโอนธุรกิจให้ธ.ยูโอบี มีผล 1 พ.ย.65 - ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 1. เงินฝาก 2. บริการธนบดี ซึ่งรวมถึงบัญชีซื้อขายกองทุนรวมแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน และเปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน 3. บริการตู้นิรภัย 4. ธุรกิจบัตรเครดิต 5. สินเชื่อส่วนบุคคล 6. สินเชื่อที่มีทรัพย์จำนองเป็นประกัน

ตลท.ให้ TNDT, TDNT-W1 ใช้เกณฑ์ Cash Balance – ตั้งแต่ 27 ก.ย.-17 ต.ค.65

Opportunity day – 27 ก.ย. - PSTC, TPS, CPANEL, STI, TFG, GPI, UBIS / 28 ก.ย. TGE, SE, TPCH, SKE, SALEE, MST, MVP/29 ก.ย. AMR, SECURE, JASIF, STP, SVT   

 

ประเด็นติดตาม: 27 ก.ย. - US New Home Sales, CB Consumer Confidence / 28 ก.ย. - TH Interest Rate Decision, US Pending Home Sales / 29 ก.ย. – US GDP 2Q22 / 30 ก.ย. – EU CPI, US Core PCE Price Index

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)