ระยะสั้นรอดูประชุมเฟด ระยะกลางรอดูรายงาน IMF 

ระยะสั้นรอดูประชุมเฟด ระยะกลางรอดูรายงาน IMF 

ระยะสั้นติดตามสัญญาณจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 21 ก.ย. ล่าสุดตลาดให้น้ำหนักกับการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ที่ 80% (ขณะที่การขึ้น 1% อยู่ที่ 20%)

ทั้งนี้ นักลงทุนอยู่ระหว่างปรับมุมมองเกี่ยวกับระดับดอกเบี้ยสูงสุดของวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ที่อาจจะขยับเพิ่มเป็น 4.5-5.0% จากก่อนหน้านี้ที่ตลาดประเมินเพียง 3.5-4.0% ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงมุมมองดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล (Dot plot) น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดจับตามอง

 

ภาพระยะกลางให้น้ำหนักกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว และอาจเขาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะสถานการณ์ในยุโรป ทั้งนี้ธนาคารโลก (World Bank) ได้ออกรายงานล่าสุด เศรษฐกิจโลกใกล้ถดถอยหรือยัง? (Is a Global Recession Imminent?) โดยประเมินเศรษฐกิจโลกใน 3 กรณี ได้แก่ ปกติ, ชะลอตัวแรง และเกิดถดถอย ซึ่งภาพรวมจะกระทบหนักกับ GDP ปี 2566 และการฟื้นตัวในปี 2567 โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Advanced economies) ขณะที่ตัวเลขการเติบโตอาจถูกกระทบน้อยกว่าในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนา (EMDEs) //อย่างไรตาม อาจต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานรายประเทศ ซึ่งเราประเมินกลุ่มประเทศที่มีเงินทุนสำรองสูง มีตลาดภายในขนาดใหญ่ อาทิ ไทยและประเทศกลุ่มอาเซียน จะได้รับผลกระทบในระดับที่ต่ำกว่าภาพรวม // นอกจากนี้เราแนะนำนักลงทุนจะรอติดตามรายงานภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาส (World Economic Outlook: WEO) ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะออกในช่วงปลายก.ย.-ต้นต.ค.
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มได้ประโยชน์จากคนละครึ่งเฟส 5 อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE, TNP, KK, MAKRO

2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA

3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK

4) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  

5)หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001

6) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM, EA, BAFS, CK, MBK, SAMART, TPIPL, ARIN, SVT, TFG, MC, TKN, SCGP, MONO, ONEE, SKE

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวลงในกรอบ 1,600-1,670 จุด อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัวมีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ส่วนกลุ่มพลังงานแค่รอเก็งกำไรแนวรับ และเลี่ยงหุ้นโรงกลั่นที่กำไรไตรมาส 3 น่าจะชะลอหนัก  

หุ้นแนะนำ:  TLI*, DMT*, PTG*, TKN*

แนวรับ: 1,605-1,620 / แนวต้าน : 1,645 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

ประเด็นการลงทุน

ECB ให้ความสำคัญต่อเงินเฟ้อมากกว่าการขยายตัวของศก. – ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า การดำเนินการของ ECB อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ ECB จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาเสถียรภาพของราคา 

วิกฤติโควิดฉุดการผลิตถ่านหินจีนลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน - จีนซึ่งเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่สุดของโลก สามารถผลิตถ่านหินได้ในปริมาณ 370.44 ล้านตันในเดือนส.ค. หรือในปริมาณ 11.95 ล้านตัน/วัน ลดลงจากระดับ 12.02 ล้านตัน/วันในเดือนก.ค.

รัฐบาลแจงเงินสำรองระหว่างปท.ลดเพราะตลาดเงินผันผวน ยันเสถียรภาพยังแข็งแกร่ง - มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ ต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่ปรับลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ระดับ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ 

กบน. เคาะเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุนฯ ลิตรละ 1.13 บ. - มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 2565 เป็นต้นไป หลังราคาดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลงกว่า 9 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยการใช้น้ำมันลดลง

เม็ดเงินโฆษณาในช่วงมกราคมถึงสิงหาคมปี 2022 สูงขึ้น yoy - นีลเส็นเปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงมกราคมถึงสิงหาคมปี 2022 อยู่ที่ 78,293 ล้านบาท ซึ่งสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 54% ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น +23.04% yoy

โซนี่พิคเจอร์สลงทุนสร้างสวนน้ำ-สวนสนุกมูลค่าพันล้านในพื้นที่อีอีซี - สวนสนุกแห่งแรกของโซนี่พิคเจอร์ส และเป็นที่แรกของประเทศไทยและของโลก โดยโครงการดังกล่าวเป็นสวนสนุกและสวนน้ำในธีมภาพยนตร์ระดับโลกบนพื้นที่ 100 ไร่ (8 ธีม) คาดจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเฟสแรกในวันที่ 12 ต.ค.65

SUSCO จับมือ ESSO – หนุน Q4 เข้าไฮซีซันดันยอดเติมน้ำมันพีค

TOP เตรียมเคาะราคาสุดท้าย 20 ก.ย. – ส่วนหนี้สินต่อทุนจะต่ำลงน้อยกว่า 1 เท่า 

Opportunity day – 19 ก.ย. IP, BM, GCAP, DPAINT / 20 ก.ย. – SO, THAI, CMAN, YGG, NWR, RSP, BRR / 21 ก.ย. – SPA, MSC, NNCL, TOG, ASEFA, RAM, TLI 

 

ประเด็นติดตาม: 20 ก.ย. – US Building Permits / 21 ก.ย. – US Existing Home Sales, Fed Interest Rate Decision / 22 ก.ย. – US Initial Jobless Claims / 23 ก.ย. – US Manufacturing & Services PMI 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)