ปรับลง ซื้อเก็งกำไร TRUE DTAC BBL (14 ก.ย. 65)

ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีโอกาสพักตัวหลังจากยังไม่สามารถปิดเหนือ 1,663 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในเดือน พ.ค. 2022 หากการปรับลงไม่ต่ำกว่า 1,650 จุด ดัชนีฯ จะยังคงอยู่ในรูปแบบ Uptrend โมเมนตัมลบ คือ ตัวเลข เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ที่ 8.3% YoY สูงกว่าตลาดคาดที่ 8.10% YoY ทำให้ตลาดเริ่มมองถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.00% สะท้อนจาก Fed Funds Futures ซึ่งให้น้ำหนัก 33% (ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ที่ 67%) ซึ่งฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ แรงในค่ำคืนที่ผ่านมา ไฮไลท์วันนี้ คือ USA PPI เดือน ส.ค. คาด +8.8% YoY และ -0.1% MoM (Vs เดือน ก.ค. +9.8% YoY และ -0.5% MoM) UK รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด +10.2% YoY และ +0.6% MoM (Vs เดือน ก.ค. +10.1% YoY และ +0.6% MoM) Thailand ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดหารือครั้งที่ 2 พิจารณาวาระนายกฯ 8 ปี

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ BH GULF CRC JMART TCAP JMT CENTEL BEM AOT EA WHA CPN MINT KTB BDMS FORTH (ซื้อ KKP)

+ Daily Recommendations: TRUE DTAC (การควบรวมเดินหน้าต่อไปได้ หลังกฤษฎีกาตีความวานนี้ว่า กสทช. ไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องการควบรวม) BBL (ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ที่ปรับตัวสูงขึ้น จากความกังวลการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของกนง.)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์แนวโน้ม Bond Yield ปรับตัวสูง: BBL KBANK KKP TIPH

+ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วม: TASCO COTTO BDMS

+ หุ้นรับประเด็นบวก ญี่ปุ่นยกเลิกเพดานนักท่องเที่ยวต่างชาติ: AAV BAFS KTC

+ หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 จากการปรับเกณฑ์ Turnover Ratio: DELTA BJC

 

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: ผลพิจำรณำของตุลำกำรศำลรัฐธรรมนูญต่อกำรดำรงตำแหน่งของนำยกฯประยุทธ์ ยังคงมีควำมไม่แน่นอน โดยศำลฯ นัดพิจำรณำหลักฐำนครั้งที่ 2 วันที่ 14 ก.ย. และคำดว่ำจะนัดพิจำรณำคดีใน 1-2 สัปดำห์ข้ำงหน้ำ ทั้งนี้ เรำคำดว่ำกำรเลือกตั้งใหม่ก่อนต้นปี 2023 ยังคงมีควำมเป็นไปได้น้อย และมีโอกำสสูงที่นำยกฯ ประยุทธ์ จะสำมำรถกลับมำดำรงตำแหน่งนำยกฯ ต่อไปได้จนถึงปี 2025 อิงกำรแถลงต่อศำลฯ ของอดีตประธำนกรธ. มีชัย ฤชุพันธ์ ที่ผ่ำนมำ

 

ปัจจัยลบ

- USA: เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. อยู่ที่ +8.3% YoY สูงกว่ำ Consensus คำดที่ +8.1% YoY รำคำอำหำรปรับเพิ่มขึ้น +11.4% ขยำยตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1979 รำคำเกี่ยวกับ ที่พักอำศัย (Shelter) +6.2% เพิ่มขึ้นมำกที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984 และรำคำรถยนต์มือ 2 +7.8% ทำให้ตลำดเริ่มกังวลถึงกำรเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด สะท้อนจำก Fed Fund Futures ซึ่งให้น้ำหนักกำรปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.00% เป็นครั้งแรกที่ 33%

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: STECH PJW TRT TRC SCN SELIC ACE

- EC: สุนทรพจน์ประธานอีซี Ursula

- USA: PPI เดือน ส.ค. คาด +8.8% YoY และ -0.1% MoM (Vs เดือน ก.ค. +9.8% YoY และ -0.5% MoM)

- UK: รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด +10.2% YoY และ +0.6% MoM (Vs เดือน ก.ค. +10.1% YoY และ +0.6% MoM)

- Thailand: ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดหารือครั้งที่ 2 พิจารณาวาระนายกฯ 8 ปี / กสทช. พิจารณาเรื่องการควบรวม DTAC-TRUE

 

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบวันแรก รอบ 6 วันทำการ: การรอลุ้นรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,660.81-1,671.19 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,661.09 จุด -4.65 จุด วอลุ่มซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -6.45% วัสดุก่อสร้าง -0.71% อาหารและเครื่องดื่ม -0.55% ธนาคารและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -0.44% หุ้นบวก >4% CH BYD DITTO FSMART NEX CPH AIT TRC TMC AMA VCOM STP D THRE AIT หุ้นลบ >4% DELTA TFG BGT TFI KWI GEL

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปร่วงแรง: DJIA -3.94% S&P500 -4.32% NASDAQ -5.16% หลังจากสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ที่ +8.3% YoY สูงกว่าที่ Consensus คาดที่ +8.1% YoY ทำให้ตลาดกังวลถึงการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด สะท้อนจาก Fed Fund Futures ซึ่งให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ +1.00% เป็นครั้งแรกที่ 33% ส่วนตลาดหุ้นยุโรป CAC40 -1.39% DAX -1.59% FTSE -1.17% ปรับลงจากจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากความกังวลต่อการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาด

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -47 เซนต์ ปิดที่ USD87.13/บาร์เรล Brent -83 เซนต์ ปิดที่ 93.17 /บาร์เรล หลังจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ดีดตัวขึ้นผิดคาด เพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงและกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน ขณะที่ทองคำ -USD23.20 ปิดที่ USD1,717.40/ออนซ์ ร่วงลงจาก Bond Yield ที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า

 

ประเด็นสำคัญ

+ TRUE / DTAC: แหล่งข่าวจากฐานเศรษฐกิจ เผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาวานนี้ จะมีการพิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของกสทช. ต่อการควบรวมธุรกิจ TRUE กับ DTAC และคาดว่าจะมีคำตัดสินว่ากสทช. ไม่มีอำนาจในการพิจารณาดีลควบรวมกิจการระหว่าง TRUE กับ DTAC

+ Thailand: ที่ประชุมครม. มีมติ 1) ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 9 อัตรา ตามที่คณะกรรมการค่าจ้าง กระทรวงแรงงานเสนอ มีผลในวันที่ 1 ต.ค. โดยสูงสุดที่ 354 บาท ในจังหวัดภูเก็ต ชลบุรี ระยอง และต่ำสุดที่ 328 บาท ที่ยะลา ปัตตำนี นราธิวาส น่าน อุดรธานี ส่วนกทม. อยู่ที่ 353 บาท 2) ขยายมาตรการลดภาษีดีเซล 5 บาท/ลิตร ออกไป จากวันที่ 21 ก.ย.-30 พ.ย. อีก 2 เดือน ด้วยงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการขยายมาตรการเป็นครั้งที่ 4 จากก่อนหน้านี้ลดไปแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกช่วงวันที่ 18 ก.พ.-20 พ.ค. 2022 ลดภาษีลิตร 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รัฐสูญรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค. เป็นเวลา 2 เดือน ครั้งนี้ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 3 ช่วงวันที่ 21 ก.ค.-20 ก.ย. เป็นเวลา 2 เดือน ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท

+ Thailand: ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ส.ค. 2022 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2022 เนื่องจากในหลายปัจจัย เช่น ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีการผ่อนคลายกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ธุรกิจเริ่มเปิดดำเนินการได้เป็นปกติ ตลอดจนการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงอย่างมาก

- USA: ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า การควบคุมเงินเฟ้อจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้น หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด โดยกล่าวว่าการสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นและเวลามากขึ้น ถึงแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับเดือน ส.ค. บ่งชี้ถึงความคืบหน้ามากขึ้นในการทำให้เงินเฟ้อลดลงในเศรษฐกิจสหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BJC CENTEL SAWAD

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TRUE DTAC BBL

Derivatives: แนะปิด Long S50U22 ออกไปก่อน