SICT ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์บ้างแล้ว

SICT ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์บ้างแล้ว

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SICT ใน 3Q65 จะอยู่ที่ 37 ล้านบาท (+108% YoY, -34% QoQ) ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9M65 อยู่ที่ 125 ล้านบาท (+94% YoY) โดยคาดว่ายอดขายใน 3Q65 จะอยู่ที่ 140 ล้านบาท (+27% YoY, -7% QoQ)

เนื่องจากเป็นช่วงที่ยอดขายตกตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้ยอดขายในงวด 9M65 อยู่ที่ 430 ล้านบาท (+34% YoY) ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q65 จะอยู่ที่ 55.5% (ทรงตัว YoY, แต่ลดลง 0.9 ppt QoQ) เพราะแรงกดดันจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของวัตถุดิบที่มีต้นทุนสูงถูกชดเชยไปบางส่วนด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนลง ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย QTD อยู่ที่ 36.10 บาท/ดอลลาร์ฯ (จาก 34.40 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 2Q65 และ 32.60 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 3Q64) เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะอยู่ที่ 28.8% ใน 3Q65 เนื่องจาก i) ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการผ่อนคลายเกณฑ์คุมการเดินทาง และ ii) ค่าใช้จ่ายด้าน R&D

 

ฐานกำไรในปี 2565 จะสูงโดยกำไรจะโตถึง 100% YoY

เนื่องจากสถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบคลายตัวลง และบริษัทบริหารจัดการสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงคาดว่าสมมติฐานยอดขายใน 2H65 ของเราจะมี upside อีก ในขณะเดียวกัน อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย YTD อยู่ที่ 34.40 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าสมมติฐานในปัจจุบันของเราที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากฐานกำไรที่ต่ำใน 3Q64-4Q64 เราคาดว่ากำไรของ SICT น่าจะเพิ่มขึ้น YoY ใน 3Q65-4Q65 ทั้งนี้ เราได้ปรับสมมติฐานต่าง ๆ เล็กน้อย และปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2565 ขึ้นอีก 17% ในขณะที่ปรับประมาณการปี 2566-2567 ขึ้นอีก 7-9% ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักของ SICT โตอย่างมีนัยสำคัญถึง 100% ในปี 2565 ก่อนที่จะกลับมาโตในระดับปกติในปี 2566 ที่ 4% YoY และเติบโตระดับปานกลางที่ 22% ในปี 2567

 

 

 

Valuation & action

เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 เป็น 9.80 บาท จากเดิม 9.20 บาท อิงจาก PER เท่าเดิมที่ 27.0x (ค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทย +0.25 S.D. หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์โลก -1.0 S.D.) ทั้งนี้ ราคาหุ้น SICT วิ่งขึ้นมาแล้วถึง 54% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่เราเริ่มออกบทวิเคราะห์หุ้นตัวนี้ ซึ่งน่าจะสะท้อนแนวโน้มที่ดีของบริษัทไปแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจาก i) ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ และ ii) ราคาปิดล่าสุดเหลือ upside จำกัด ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”

 

Risks

ความเสี่ยงจากผู้ผลิตวัตถุดิบ และ supplier หลัก, เทคโนโลยี และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงเร็ว, กฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง, ทรัพย์สินทางปัญญา, อัตราแลกเปลี่ยน