'หุ้นจีน' ทำผลงานดีสุดในรอบ 8 ปี แรงขับเคลื่อน 'เอไอ ไบโอเทค ทองคำ'

'หุ้นจีน' ทำผลงานดีสุดในรอบ 8 ปี แรงขับเคลื่อน 'เอไอ ไบโอเทค ทองคำ'

ตลาดหุ้นจีนจ่อทำผลงานปีนี้ดีที่สุดนับตั้งแต่ 2017 หลังแรงซื้อขยายวงกว้างจากแรงขับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ไบโอเทค และทองคำ ดัชนี MSCI China แซงหน้า S&P 500 มากสุดในรอบ 8 ปี

บลูมเบิร์กรายงานว่า "ตลาดหุ้นจีน" มีแนวโน้มปิดสิ้นปี 2025 ด้วยการทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา จากการขับเคลื่อนโดยหุ้นเทคโนโลยีที่ได้ขยายวงไปยังบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เหมืองทองคำไปจนถึงบริษัทยา

ดัชนี MSCI China ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 28% ในปีนี้ เตรียมทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สอง และยังมีแนวโน้มแซงหน้าดัชนี S&P 500 ด้วยส่วนต่างที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017

แรงซื้อที่กระจายตัวในวงกว้างสะท้อนธีมการลงทุนระดับโลกที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร้อนแรง ควบคู่ไปกับปัจจัยเฉพาะในประเทศอย่างนวัตกรรมและอุตสาหกรรมเกม อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวตามหลังอย่าง "สาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์" ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจนักลงทุนถึง "ปัญหาเชิงโครงสร้าง" ของภาคที่อยู่อาศัยและแรงกดดันเงินฝืดที่ฝังลึกในจีน

“แม้ธีม AI อาจยังช่วยพยุงหุ้นบางส่วนของตลาดต่อไปในปี 2026 แต่หนึ่งในตัวเร่งสำคัญที่มีแนวโน้มมากกว่าสำหรับการปรับขึ้นในวงกว้าง คือการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่” โอลิเวอร์ แบล็กเบิร์น ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของ Janus Henderson กล่าว “ขณะที่แผนชัดเจนในการแก้ไขปัญหาภาคที่อยู่อาศัย หรือการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะสร้างผลเชิงบวกมากที่สุด”

'ผู้ชนะ' ในตลาดหุ้นจีน 2025

  • กระแสตื่นทองพุ่ง (Gold Rush)

บริษัทเหมืองแร่โลหะมีค่าตั้งแต่ทองคำ เงิน ไปจนถึงทองแดง ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Materials ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาดัชนีย่อยของ MSCI China สอดคล้องกับแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี MSCI China Materials ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 108% ในปีนี้ และกำลังมุ่งหน้าสู่ผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 โดยมีบริษัทชั้นนำอย่าง China Gold International Resources, CMOC Group และ MMG เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก

ความต้องการหาสินทรัพย์ปลอดภัยจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง ส่งให้ราคาทองคำและเงินทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่ทองแดงและอะลูมิเนียมได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์–อุปทานที่ตึงตัว ซึ่งเชื่อมโยงกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI นอกจากนี้แคมเปญของรัฐบาลปักกิ่งในการลดกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรม ยังช่วยหนุนราคาภายในประเทศ

 

  • ซูเปอร์มาร์เก็ตไบโอเทค (Biotech Supermarket)

ภาคสาธารณสุขของจีนสลัดภาพซบเซาที่กินเวลานานถึง 4 ปี หลังบริษัทยาภายในประเทศสามารถทำข้อตกลงให้สิทธิ์พัฒนายากับบริษัทยาระดับโลกได้อย่างคึกคัก รวมถึงดีลขนาดใหญ่กับ Pfizer เพื่อพัฒนายารักษามะเร็งชนิดทดลองจากบริษัท 3SBio ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเสิ่นหยาง

อุตสาหกรรมนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนหลังจากทำผลงานต่ำกว่าตลาดมาหลายปี โดยได้แรงหนุนจากบทบาทที่เพิ่มขึ้นของจีนในฐานะ “ซูเปอร์มาร์เก็ต” สำหรับสินทรัพย์นวัตกรรมของบริษัทยาระดับโลก ชุย ชุย หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านเฮลธ์แคร์เอเชียของบริษัท Jefferies ระบุว่า “ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2025 เพียงปีเดียว ไบโอเทคจีนครองสัดส่วนสูงถึง 48% ของมูลค่าดีล out-licensing ทั่วโลก”

ดัชนีย่อยด้านสาธารณสุขของ MSCI China ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 50% ในปีนี้ และกำลังมุ่งหน้าสู่ผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 โดยราคาหุ้นของ 3SBio และ Remegen พุ่งขึ้นกว่า 300% และ 400% ตามลำดับ

  • อุตสาหกรรมบันเทิงคึกคัก (Booming Entertainment)

ตลาดแรงงานที่ตึงตัวและการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอ ทำให้ชาวจีนจำนวนมากลดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว และหันไปเลือกความบันเทิงภายในบ้านที่มีราคาย่อมเยามากขึ้นแทน ซึ่งเป็นแรงหนุนให้กับยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตอย่าง Tencent Holdings รวมถึงบริษัทขนาดเล็กอย่างผู้พัฒนาเกมออนไลน์ Giant Network Group และแพลตฟอร์มภาพถ่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง Meitu

จากแรงหนุนดังกล่าว ดัชนี MSCI China Communication Services ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในปีนี้ เตรียมทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 โดย Giant Network Group พุ่งขึ้นกว่า 250% และ Meitu เพิ่มขึ้นมากกว่า 130%

“มีสัญญาณว่าท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของครัวเรือนด้านความบันเทิงดิจิทัลยังคงมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง” ลินจาก AllianceBernstein กล่าว “เราเห็นการเติบโตของกำไรที่แท้จริงในบริษัทเกมทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ”

  • 'ตลาดบ้าน–สาธารณูปโภค' คือผู้แพ้

กลุ่มสาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์ของจีนเป็นกลุ่มที่ทำผลงานต่ำกว่าตลาดอย่างชัดเจนในการปรับขึ้นรอบนี้ ดัชนีย่อยด้านสาธารณูปโภคของ MSCI China แทบไม่ขยับนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ขณะที่ดัชนีอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเพียง 1.4%

บริษัทไฟฟ้าและก๊าซของจีนที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่ลดลง ยังสะท้อนภาพของภาวะเงินฝืดที่ฝังรากลึก ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ในขณะเดียวกัน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงตามหลังตลาดโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ หลังวิกฤตภาคที่อยู่อาศัยที่ยืดเยื้อมาหลายปีไม่แสดงสัญญาณคลี่คลาย โดยราคาหุ้นของ China Vanke ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ประสบปัญหา ร่วงลง 36% ในตลาดฮ่องกงในปีนี้ ทำให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่ปรับตัวแย่ที่สุดในกลุ่มสมาชิก MSCI China