ธปท.คุมเข้ม เงินตราต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 แสนดอลล์ขึ้นไป ต้องแจงแหล่งที่มา

ธปท.คุมเข้ม เงินตราต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 แสนดอลล์ขึ้นไป ต้องแจงแหล่งที่มา

ธปท.ออกแนวปฏิบัติใหม่ คุมเข้มการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ กำหนดให้รายการตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ต้องตรวจสอบแหล่งที่มา วัตถุประสงค์ และเอกสารประกอบอย่างละเอียด มีผลตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2568

ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศ เรื่อง การกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับลูกค้า

เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการรับเงินตราต่างประเทศและส่งออกเงินตราต่างประเทศในปริมาณสูง ส่งผลให้ความเสี่ยงในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเห็นควรกำหนดแนวทางในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของลูกค้าที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ เพื่อให้การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศดังกล่าวเป็นไปเพื่อการค้าการลงทุนและตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง 

กรณีเงินตราต่างประเทศที่ไม่เกี่ยวกับการค้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศ และมีจำนวนเงินตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า ให้ผู้ได้รับอนุญาตตรวจสอบเอกสารหลักฐานการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ (trade date) หรือวันครบกำหนดชำระเงิน (settlement date)

หากมีเหตุจำเป็น ให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบธุรกรรมของลูกค้าที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศ โดยให้ผู้ได้รับอนุญาตรู้จักและมีการทำ Know Your Customer (KYC) และ Customer Due Diligence (CDD) อย่างต่อเนื่อง ให้สามารถใช้กระบวนการ Know Your Business (KYB) ได้

อย่างไรก็ดี หากการทำธุรกรรมดังกล่าวมีจำนวนเงินตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า และไม่สามารถใช้กระบวนการ KYB ได้ ให้ผู้ได้รับอนุญาตเรียกเอกสารประกอบการทำธุรกรรมโดยไม่สามารถใช้กระบวนการ KYB ได้ ได้แก่

(1) เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย

(2) ค่าสินทรัพย์ดิจิทัล

(3) เงินกู้อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินลงทุนในเครือ/สาขา เงินลงทุนในหลักทรัพย์ เงินกู้ เงินให้เปล่า และเงินสำหรับธุรกรรมอนุพันธ์

(4) วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่าสินค้า บริการ รายได้ และเงินโอนและบริจาค เงินลงทุน เงินปันผลและเงินฝาก

อนึ่ง การทำธุรกรรมเพื่อวัตถุประสงค์สินทรัพย์ดิจิทัล ให้เรียกเอกสารแสดงแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือแหล่งที่มาของเงินที่นำไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติมด้วย

กรณีเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวกับทองคำ ให้เรียกเอกสารที่แสดงว่าลูกค้ามีการขายทองคำในต่างประเทศทุกจำนวนในรายการธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งให้เรียกเอกสารเรียกเงินและเอกสารโอนทองคำภายในวันที่ครบกำหนดชำระเงิน และเอกสารโอนทองคำไม่เกิน 2 วันทำการนับจากวันครบกำหนดชำระเงิน

1.1.3 กรณีรับเงินตราต่างประเทศที่มีจำนวนเงินตั้งแต่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่า ให้เรียกเอกสารที่แสดงว่าเป็นการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศ

1.2 ในการรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่ได้รับมาจากต่างประเทศที่เป็นธุรกรรมล่วงหน้า ให้ผู้ได้รับอนุญาตถือปฏิบัติตามข้อ 17 (2) ของประกาศเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงิน

 ทั้งนี้ ในกรณีการทำธุรกรรมล่วงหน้าที่เข้าข่ายตามข้อ 1.1 (1) – (4) ให้ผู้ได้รับอนุญาตเรียกเอกสารประกอบการทำธุรกรรมโดยไม่สามารถใช้กระบวนการ KYB ได้
    2.    การรับฝากเงินที่ได้รับจากต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศให้ผู้ได้รับอนุญาตถือปฏิบัติเกี่ยวกับการรับเงินตราต่างประเทศที่เป็นธุรกรรมทันทีตามหลักเกณฑ์ข้างต้นด้วย

จึงเรียนมาเพื่อทราบและขอความร่วมมือปฏิบัติตามตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป และโปรดแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยทั่วกัน