'ทองคำโลก' ทุบสถิติสูงสุดใหม่แตะ 4,530 'แร่เงิน' ทะยานแตะ 75 ดอลลาร์ครั้งแรก

ทองคำโลก หลังปิดตลาดวันคริสต์มาส วันนี้ ราคาทอง กลับมาทำสถิติสูงสุดใหม่ ATH อีกครั้งแตะ 4,530 ดอลลาร์ ขณะที่ 'แร่เงิน' พุ่งทะยานทำสถิติใหม่ 75 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นติดต่อกันห้าวันทำการแล้ว
ทองคำโลก หลังปิดตลาดวันคริสต์มาส วันนี้ ราคาทองคำ เงิน และ ราคาแพลทินัม พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ในวันศุกร์ที่ 26 ธ.ค. หลังจากปิดตลาดไปเนื่องในวันคริสต์มาส โดยได้แรงหนุนของโมเมนตัมการ "เก็งกำไร" กลุ่มโลหะมีค่า และสภาพคล่องที่เบาบางช่วงปลายปี ประกอบกับการที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมต่อในปีหน้า รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
ราคาทองคำ ตลาดสปอต (Spot gold) พุ่งขึ้นสูงสุด 1.2% ไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,530.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 4,504.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลาประมาณ 11.23 น. วันนี้
ขณะที่สัญญา ทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปรับขึ้น 0.7% ไปอยู่ที่ 4,535.20 ดอลลาร์
ราคาแร่เงิน ใน ตลาดสปอต (Spot silver) พุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ที่ 75.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 74.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อช่วงสาย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3.6%
ราคาแพลทินัม ใน ตลาดสปอต (Spot Platinum) พุ่งขึ้นถึง 7.8% ไปอยู่ที่ 2,393.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเพิ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,429.98 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน
ราคาแพลเลเดียม (Palladium) ปรับขึ้น 5.2% มาอยู่ที่ 1,771.14 ดอลลาร์ หลังจากทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีไปเมื่อวันก่อนหน้า
สรุปในภาพรวม "โลหะมีค่าทั้งหมด" มีแนวโน้มปิดบวกทั้งหมดในสัปดาห์นี้
เคลวิน หว่อง นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจากบริษัท OANDA กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม การปรับขึ้นของราคาทองคำและเงินได้รับแรงขับเคลื่อนจากนักลงทุนที่เน้นโมเมนตัมและการเก็งกำไร โดยมีปัจจัยหนุนจากสภาพคล่องปลายปีที่เบาบาง ความคาดหวังว่าดอกเบี้ยสหรัฐจะอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน ค่าเงินดอลลาร์ ที่อ่อนค่าลง และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้น ซึ่งทั้งหมดผลักดันให้โลหะมีค่าทำสถิติสูงสุดใหม่
เมื่อมองไปข้างหน้าสู่ "ครึ่งแรกของปี 2026" ราคาทองคำอาจขยับเข้าใกล้ระดับ "5,000 ดอลลาร์" ขณะที่ราคาเงินมีโอกาสจะขึ้นไปแตะราว "90 ดอลลาร์"
ราคาทองคำปีนี้ ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง เกือบ 72% ทำสถิติการปรับขึ้นรายปีสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1979 จากปัจจัยหนุนของนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ อุปสงค์จากธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของการถือครองในกองทุน ETF และกระแสลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์
ขณะที่ ราคาเงินปีนี้ พุ่งขึ้นแล้ว 158% นับตั้งแต่ต้นปีแซงหน้าทองคำ จากภาวะขาดแคลนเชิงโครงสร้าง การถูกจัดเป็นแร่สำคัญของสหรัฐ และความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง
ส่วนแพลทินัมและแพลเลเดียม ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรมรถยนต์ ปรับตัวขึ้นแรงจากอุปทานที่ตึงตัว ความไม่แน่นอนด้านภาษี และการหมุนย้ายการลงทุนจากทองคำ โดยราคาแพลทินัมเพิ่มขึ้นราว 165% และแพลเลเดียมมากกว่า 90% นับตั้งแต่ต้นปี
ท่ามกลางการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า สินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยอย่างทองคำ มีแนวโน้มจะยังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำ
เมื่อมองด้านปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงมีปัจจัยที่สหรัฐกำลังมุ่งบังคับใช้มาตรการ “ปิดล้อม” เรือบรรทุกน้ำมันจากเวเนซุเอลาในช่วงสองเดือนข้างหน้า ขณะเดียวกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหรัฐได้โจมตีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของไนจีเรีย จากกรณีการโจมตีชุมชนคริสเตียนในพื้นที่







