แบงก์ชาติ เร่งถกคลัง แก้ประกาศคลังเอื้อ ’ธนาคาร-ร้านทอง‘ รายงานการซื้อ-ขายทองคำ หวังเห็นเส้นทางเงิน สกัดเงินเทา

แบงก์ชาติ เร่งถกคลัง แก้ประกาศคลังเอื้อ ’ธนาคาร-ร้านทอง‘ รายงานการซื้อ-ขายทองคำ หวังเห็นเส้นทางเงิน สกัดเงินเทา

ธปท.เร่งถกคลัง ขอแก้ประกาศกระทรวงการคลัง คุมเข้มธุรกรรมทอง ขยายเพดานนำเงินตรากลับประเทศ หวังลดแรงกดดันบาท พร้อมเพิ่มความโปร่งใสติดตามเส้นทางเงินเทา

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง ล่าสุดธปท.อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อปรับปรุงประกาศกระทรวงการคลัง เพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อค่าเงินบาท

โดยสิ่งที่ธปท.อยู่ระห่างการดำเนินการ คือการขยายการนำเงินดอลลาร์หรือเงินตราต่างประเทศกลับเข้าประเทศ เพิ่มเป็น 10 ล้านดอลลาร์ จากเดิมกำหนดวงเงินเพียง 1ล้านดอลลาร์ที่ต้องนำกลับเข้าประเทศ

โดยการขยายเกณฑ์นี้จะช่วย ลดเงินไหลเข้า ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการเงินได้ดีขึ้น และช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยเร็วๆนี้ธปท.จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นหรือ Hearing กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะประกาศใช้

อีกมาตรการที่กำลังดำเนินการคือการเข้าไปกำกับดูแลและขอข้อมูลธุรกรรมทองคำ เพื่อให้อำนาจธปท.ในการรับทราบข้อมูลธุรกรรมทองคำเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและติดตามพฤติกรรมในตลาด มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขประกาศกระทรวงการคลังเช่นกัน เพื่อขอรายงานข้อมูลจากร้านทอง ทั้งการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม รายธุรกรรม  

โดยเฉพาะแพลตฟอร์มส่วนใหญ่มักจะเป็นร้านทองขนาดใหญ่ สำหรับธุรกรรมที่หน้าร้าน จะขอให้ร้านทองรายงานข้อมูล ณ สิ้นวัน โดยร้านทองต้องรายงานการซื้อขายต่างๆ รวมถึงการทำธุรกรรมเพื่อป้องกันความเสี่ยงทั้งในเรื่องทองคำและอัตราแลกเปลี่ยน

โดยวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้ธปท.เห็นข้อมูลที่ผ่านมาจากสถาบันการเงิน และร้านทองมากขึ้น เพื่อตรวจสอบให้เห็นถึงเส้นทางเงิน เงินเทาต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้ทองคำเป็นช่องทางในการฟอกเงินหรือธุรกรรมที่น่าสงสัย

ซี่งการมีข้อมูลจะช่วยยืนยันความชัดเจนและเป็นผลดีกับร้านค้าที่บริสุทธิ์ ซึ่งข้อมูลจะช่วยให้สามารถสืบหาเส้นทางการเงินได้ง่ายขึ้น

 “การเห็นเส้นทางเงิน ธุรกรรมต่างๆจะทำให้เห็นต้นตอของธุรกรรม และสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของนักลงทุนและผู้บริโภคได้ ลดแรงกดดันค่าเงินในอนาคต หวังว่าการวิเคราะห์นี้จะนำไปสู่มาตรการที่ช่วยผ่อนแรงกดดันต่อค่าเงินบาทในอนาคตได้”
    

ซึ่งมาตรการใหม่นี้จะเป็นการบังคับให้รายงานข้อมูล โดยต้องมีการแก้ประกาศกระทรวงการคลัง โดยผู้รายงานและผู้รับรายงาน ร้านทองจะรายงานมายังธปท. โดยตรง ซี่งมาตรการนี้จะมีการทำ Hearing ก่อนที่จะดำเนินการได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามมาตรการใหม่นี้ ยังครอบคลุมถึงธุรกรรมนำเข้าและส่งออกทองคำด้วย  โดยต้องรายงานการรับชำระเงินของผู้นำเข้าส่งออกว่าได้รับรายรับเป็นสกุลเงินใดในการซื้อขายทองคำ รวมถึงคริปโต เพราะต้องการเห็นข้อมูลธุรกรรมทั้งหมด แม้ว่าการติดตามคริปโตจะทำได้ยากเนื่องจากไม่ผ่านธนาคาร แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกจะต้องแจ้งการทำธุรกรรม และยังต้องมีเอกสารประกอบคือ ใบขนซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธปท.ได้พูดคุยกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ธนาคารตรวจสอบธุรกรรมทองคำอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ทั้งต้องตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ให้เข้มข้น และมีมาตรฐานการปฏิบัติที่เหมือนกันสำหรับทุกธนาคาร เนื่องจากธนาคารมีหน้าที่ทำธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนให้กับบริษัททองคำ แบงก์จึงต้องช่วยตรวจทานความถูกต้องของเอกสาร

รวมถึง การตรวจสอบเอกสารใบขน ใบซื้อขาย เมื่อร้านทองมาขายดอลลาร์หรือซื้อดอลลาร์เพื่อจ่ายค่าทอง ธนาคารต้องตรวจสอบเอกสาร เพื่อยืนยันว่ามีการขนส่งทองคำจริง และตรวจสอบให้มั่นใจว่าข้อมูลและราคานั้นมีเหตุมีผลไม่ใช่การทำธุรกรรมที่ผิดปกติ