'เงินวอนเกาหลีใต้' ดิ่งหนัก ใกล้แตะระดับรอบ 16 ปี ตั้งแต่วิกฤติซับไพรม์

นักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นเกาหลีใต้ กลัวเงินวอนอ่อนค่าหนักใกล้ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 จับตาแบงก์ชาติเกาหลีใต้เข้าแทรกแซง
"เงินวอนเกาหลีใต้" กำลังใกล้แตะระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่วิกฤตการณ์ซับไพรม์เมื่อปี 2009 ส่งผลให้ธนาคารกลางต้องเพิ่มแรงกดดันในการปกป้องสกุลเงินวอน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า เงินวอนใกล้ทำสถิติใหม่โดยเหลืออีกประมาณ 1% ก็จะทะลุระดับ 1,487.45 ต่อดอลลาร์ต่อวอน ซึ่งถือเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2009
รี ชาง ยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) กล่าวเมื่อวันพุธว่า ทางการพร้อมเข้าแทรกแซงหากเห็นความผันผวนที่มากเกินไป แต่เขามองว่าเป็นเรื่องของตลาดที่ไวมากเกินไปต่อความไม่แน่นอนระดับโลก รวมถึงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความตึงเครียดด้านการค้า มากกว่าจะเป็นปัญหาพื้นฐานในประเทศ
ตลาดจับตาเอเชียแห่พยุงค่าเงิน
"การแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน" กลับมาเป็นประเด็นที่นักลงทุนจับตามองอีกครั้ง เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับเกาหลีใต้เพียงประเทศเดียว ก็ยังเกิดขึ้นกับ "ญี่ปุ่น อินเดีย และฟิลิปปินส์" ด้วย
ซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ออกมาเตือนเมื่อวันพุธ ว่า การเคลื่อนไหวของ "เงินเยน" กลายเป็นไปในทิศทางเดียว และรวดเร็ว โดยค่าเงินเยนร่วงลงแตะระดับสำคัญที่ 155 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ "รูปี" ของอินเดีย และ "เปโซ" ฟิลิปปินส์กำลังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
“แต่เกาหลีแตกต่างจากญี่ปุ่นที่ออกคำเตือนด้วยวาจาเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินเยน รี ชาง ยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ กลับมีท่าทีที่ค่อนข้างระมัดระวัง และเป็นไปตามแบบแผน” คยอง วอน มิน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารอูรีในกรุงโซล กล่าว “เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนจากทางการ เงินวอนจึงอยู่ในสายตาของนักลงทุน”
ทั้งนี้ ค่าเงินวอนร่วงลงแรงถึง 6% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดในเอเชีย เนื่องมาจากการไหลออกของเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่นักลงทุนแห่ขนเงินออกไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น โดยต่างชาติได้ขายสุทธิหุ้นเกาหลีใต้ไปแล้วถึง 5.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนนี้
แนวโน้มที่ย่ำแย่ของเงินวอนยิ่งทำให้ความพยายามของ "ธนาคารกลาง" ที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าจีดีพีของเกาหลีใต้จะเติบโตราว 0.9% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในระดับที่ต่ำที่สุดในเอเชีย
แบงก์ชาติเกาหลีใต้ยังคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้มาหลายเดือน หลังจากที่ปรับลดไปครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพ.ค. ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในภูมิภาคอย่าง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งได้ลดดอกเบี้ยต้นทุนการกู้ยืมลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ด้าน "ตลาดตราสารหนี้" ของเกาหลีใต้เองก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนในสัปดาห์นี้ เนื่องมาจากการคาดการณ์ที่มีน้ำหนักมากขึ้นว่า วัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินได้สิ้นสุดลงแล้ว
บลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า หนึ่งในทางเลือกที่เกาหลีใต้อาจใช้เพื่อพยุงค่าเงินก็คือ การขอให้กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาตินำเงินดอลลาร์ออกมาขาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทางการเคยใช้มาแล้วเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







