สื่อนอกชี้ 'วิทัย' พลิกสไตล์การสื่อสาร พาแบงก์ชาติสู่ยุคใหม่ เข้าถึงได้มากกว่าเดิม

บลูมเบิร์กชี้ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ 'วิทัย รัตนากร' พลิกโฉมการสื่อสารของแบงก์ชาติพา ธปท. เข้าสู่ยุคใหม่ที่ ‘เปิดกว้าง-เข้าถึงได้’ มากขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์มองเป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ การสอดประสานระหว่าง ธปท.- คลัง
“แวะมาทักทายครับ”
ข้อความในไลน์นี้เด้งขึ้นมาช่วงคืนวันอังคาร ในกรุ๊ปแชต "ห้องสื่อมวลชนประจำแบงก์ชาติ" ที่มีผู้สื่อข่าวกว่าร้อยคน และสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนเพราะนี่คือ การส่งไลน์โดยตรงของนาย "วิทัย รัตนากร" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งถือเป็น "ครั้งแรก" ที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติส่งข้อความถึงนักข่าวแบบเป็นส่วนตัวเช่นนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ข้อความสั้นๆ ที่ไม่ค่อยเป็นทางการแบบนี้ สะท้อน "การเปลี่ยนโทนอย่างชัดเจน" ของ ธปท. ซึ่งโดยปกติแล้วขึ้นชื่อเรื่องความสุขุม และความเป็นทางการ
หลังเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่สัปดาห์ นายวิทัยในวัย 55 ปี ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขากำลังนำ “สไตล์ใหม่” เข้ามาในแบงก์ชาติ เขาเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่เข้มงวดของสถาบันให้ดูเปิดกว้าง และเป็นมิตรกับสื่อมากขึ้น พร้อมเดินหน้าสร้างสะพานเชื่อมใหม่หลังจากที่แบงก์ชาติมีความสัมพันธ์ที่ยากลำบากกับรัฐบาลมาตลอดหลายปีก่อนหน้านี้
“ผมจะต้องไปแล้วครับ...แต่ถ้าพวกคุณมีปัญหาหรืออยากได้อะไร ก็บอกผมโดยตรงได้เลย” วิทัยคุยไลน์อย่างเป็นกันเอง
ข้อความนี้เองที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้ว่าการแบงก์ชาติกำลังให้ข้อมูลติดต่อส่วนตัวกับผู้สื่อข่าวโดยตรง โดยข้ามขั้นตอนของทีมสื่อสารองค์กรของ ธปท. และส่งสัญญาณถึง “ยุคใหม่แห่งการเข้าถึงได้” ของหนึ่งในสถาบันที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศไทย
แนวทางนี้คล้ายคลึงกับของ "ธนาคารกลางฟิลิปปินส์" ที่นักข่าวสามารถส่งข้อความถึงผู้ว่าการฯ ได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Viber แต่หากเทียบกับแบงก์ชาติส่วนใหญ่ทั่วโลกแล้ว ผู้กำหนดนโยบายการเงินระดับสูงยังคงมี "ระยะห่าง" กับสื่ออยู่
มิเกล ชันโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กลุ่มตลาดเกิดใหม่เอเชียจาก Pantheon Macroeconomics มองว่า โดยทั่วไปแล้วถือเป็นเรื่องดีที่วิทัยหรือผู้ว่าการแบงก์ชาติประเทศอื่นๆ จะเปิดเผยตัวต่อสาธารณะมากขึ้นเล็กน้อย เพราะการตัดสินใจของพวกเขาส่งผลกระทบในวงกว้าง และนโยบายการเงินก็เป็นเรื่องที่ซับซ้อน
หลังจากที่บลูมเบิร์กเผยแพร่บทความนี้ ผู้ว่าฯ ธปท. ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมในวันอังคาร โดยส่งข้อความแชตถึงบลูมเบิร์กว่า
“เราทุกคนควรทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพ เพราะจะช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนจำนวนมาก” วิทัย ส่งข้อความแชตถึงบลูมเบิร์ก
'การสื่อสาร' จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ ธปท.
ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ไม่ได้เป็นมิตรเฉพาะกับสื่อเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าเชื่อมต่อกับ "ภาคเอกชน" ด้วย โดยเมื่อเดือนที่แล้ว นายวิทัย และผู้บริหารระดับสูงของแบงก์ชาติได้พบปะกับกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า และภาษีนำเข้าของสหรัฐ
การเปลี่ยนโทนการสื่อสารนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ เนื่องจาก ธปท. “มีพื้นที่จำกัดในการปรับลดดอกเบี้ย” ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ "การสื่อสาร" อาจกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สุดของ ธปท.
ทั้งนี้เป็นที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 2% ในปีนี้ หรือประมาณ “ครึ่งหนึ่ง” ของอัตราการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้านอย่าง "เวียดนามและอินโดนีเซีย"
นายวิทัยซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนการลดดอกเบี้ยก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ธปท. ได้กล่าวเอาไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า “ยังมีสเปซเหลืออยู่สำหรับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมหากจำเป็น”
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกของวิทัยในฐานะผู้ว่าแบงก์ชาติ มีกรรมการ 2 คน จากทั้งหมด 7 คน ลงมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่อีก 5 คนเห็นควรให้คงดอกเบี้ยเอาไว้ แต่วิทัยปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าเขาโหวตอย่างไร
นักวิเคราะห์มองเป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’
การแต่งตั้งนายวิทัยได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรกเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล และทำให้เกิดคำถามเรื่อง "ความเป็นอิสระของธนาคารกลาง" ว่าอาจถูกกระทบหรือไม่ เพราะก่อนจะมาที่วังบางขุนพรหม วิทัยเคยเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ดูแลโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และครัวเรือนขนาดเล็กหลังโควิด รวมถึงสนับสนุนนโยบายภาครัฐหลายโครงการ
บลูมเบิร์กระบุว่าภายใต้การนำของเขา ธปท.อาจหันมาประสานงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลังมากขึ้น ยุติความตึงเครียดที่ดำเนินมาอย่างยาวนานระหว่างสองหน่วยงานสำคัญทางเศรษฐกิจนี้
และวิทัยเองยังเป็นเพื่อนสนิทมายาวนานกับ "เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนปัจจุบันด้วย
“ดูเหมือนว่าวิทัยกำลังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกระทรวงการคลัง” เอริกา เทย์ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ ซีเคียวริตีส์ กล่าว
“การที่เขาปรากฏตัวในงานสาธารณะร่วมกับเอกนิติ แสดงให้เห็นว่าทั้งธนาคารกลาง และกระทรวงการคลัง กำลังร้องเพลงโน้ตตัวเดียวกัน และการสอดประสานนี้ก็เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อทิศทางตลาด”
ทั้งนี้ ธปท.ในยุคของผู้ว่าการคนก่อนหน้า "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" และรัฐบาลสองชุดหลังสุดของพรรคเพื่อไทย มักมีความเห็นที่ขัดแย้งกัน ซึ่งนำไปสู่ความกังวลว่ารัฐบาลอาจพยายามแทรกแซงความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ
“ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีความเป็นอิสระในการดำเนินงาน แต่ก็ต้องพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานอื่นเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ เป้าหมายสูงสุดของเราคือ การดูแลประชาชน และสังคม” วิทัย กล่าวในการพบสื่อครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 ต.ค.68
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568ในการพบสื่อครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง“เราจะใกล้ชิดกับทั้งสองฝ่ายมากขึ้น”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







