'ทองคำ' ทำนิวไฮรายวัน จ่อทำสถิติใหม่เดือนนี้ ดีที่สุดในรอบ 16 ปี

ราคาทองคำโลก ยังพุ่งขึ้นต่อเนื่องรายวัน คาดเดือนกันยายน นี้ เป็นเดือนที่ดีที่สุดของทองคำในรอบ 16 ปี จับตาแตะ 4,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้
(มีอัปเดต) รอยเตอร์ส รายงานว่า ราคาทองคำโลกวันนี้ (30 ก.ย.68) ยังคงทำราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในช่วงบ่ายเมื่อเวลาประมาณ 13.34 น. วันนี้ตามเวลาในไทย ราคาทองตลาดสปอต (Spot gold) เพิ่มขึ้นอีก 1% เคลื่อนไหวที่ 3,870.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองฟิวเจอร์ สหรัฐงวดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.1% อยู่ที่ 3,897.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลอดทั้งเดือนกันยายน นี้ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้วถึง 12.3% และคาดว่าจะปิดสิ้นเดือนทำสถิติใหม่ เป็นเดือนที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้น(รายเดือน) สูงที่สุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2009 เป็นต้นมา
นอกจากราคาทองจะได้ปัจจัยหนุนที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมอีกสองครั้งที่เหลือของปีนี้แล้ว ก็ยังมาจากปัจจัยความกังวลเรื่อง Government shutdown หรือภาวะชัตดาวน์ทางการคลังในสหรัฐ หลังเที่ยงคืนวันอังคารที่ 30 ก.ย.68 (ราว 11.01 น. วันพุธตามเวลาในไทย)
ทั้งนี้ ร่างงบประมาณรายจ่ายระยะสั้น (ถึง 21 พ.ย.68) ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไปแล้วอย่างฉิวเฉียดก่อนหน้านี้ แต่กำลังติดปัญหาในขั้นของวุฒิสภา โดยฝั่งพรรคเดโมแครตต้องการให้ขยายความคุ้มครองด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยกเลิกการตัดงบประมาณในโครงการ Medicaid ที่อยู่ในกฎหมาย One Big Beautiful Bill Act ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เรียกประชุมแกนนำสมาชิกสภาคองเกรสเมื่อวันจันทร์ เพื่อหารือเรื่องการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางออกในเรื่องนี้ โดยรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐอาจต้องเผชิญภาวะชัตดาวน์ เนื่องจากพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครตไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้
ทิม วอเทอร์เรอร์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดจากบริษัท เคซีเอ็ม เทรด กล่าวว่า ภาวะชัตดาวน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสที่ราคาทองจะพุ่งไปแตะ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปลายปีนี้
“ราคาทอง 4,000 ดอลลาร์ ในขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ในช่วงปลายปี ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนพลวัตของตลาด เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ ยังคงเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อราคาทองคำ”
ขณะที่ผลสำรวจมุมมองตลาดทุนเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ย หรือ FedWatch tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ข้อมูลพื้นฐานเศรษฐกิจล่าสุดยิ่งเพิ่มน้ำหนักที่เชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมครั้งหน้าเดือนต.ค. นี้ โดยตลาดให้น้ำหนักล่าสุดที่ 89%
นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลสำคัญของสหรัฐ อย่างดัชนีภาคการผลิต ISM manufacturing PMI และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐต่อไป
อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาในไทย ราคาทองสปอต (Spot gold) ซื้อขายช่วงเย็นในตลาดเอเชีย ปรับตัวลง 0.9% เหลือ 3,800.34 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อนักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไร หลังจากขึ้นไปทำสถิติใหม่วันนี้ที่ 3,871.45 ดอลลาร์/ออนซ์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







